สาวร้อง ทนทรมาน 8 เดือน หมอผ่าคลอดโดนลำไส้ใหญ่ ต้องขับถ่ายผ่านหน้าท้อง วอนหมอเก่งช่วยรักษา

สาวโรงงานโวย โรงพยาบาลในเชียงราย ทำคลอดท้องแรกพลาด กรีดโดนลำไส้ใหญ่ ทำชีวิตเปลี่ยน ต้องถ่ายของเสียผ่านหน้าท้อง ทนทรมานกว่า 8 เดือน วอนหมอเก่งช่วยรักษาให้หายขาด



จากกรณี เพจอยากดังเดียวจัดให้ รีเทริน ภาค 6 โพสต์ข้อความพร้อมรูป ร้องเรียนตรวจสอบ ให้ทางสาธารณสุขเชียงรายว่าได้รับร้องเรียนเรื่องดังกล่าวหรือไม่ หลังจากสาวไปผ่าท้องแต่กลับผ่าจนไส้ไหลต้องขับถ่ายออกข้างนอก ทั้งๆที่แต่ก่อนเป็นคนหน้าตาดี แต่กลับต้องทำให้ชีวิตทุกอย่างเปลี่ยนไป



ล่าสุดวันนี้ ( 29 พ.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 71/5 หมู่1 บ้านเขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีกครั้ง เพื่อพูดคุยกับ นางสาวเบญจมาศ เฉื่อยกลั่น หรือแนน อายุ 27 ปี อดีตสาวโรงงาน ปัจจุบันเป็นแม่ลูกอ่อน ที่ตกเป็นข่าว เรื่องหมอทำคลอด กรีดช่องคลอดและเกิดพลาดไปโดนสำไส้ใหญ่ จนระบบขับถ่ายของเสียเกิดความผิดปกติ ปัจจุบันต้องขับถ่ายผ่านหน้าท้อง ทุกข์ทรมาน มานานกว่า 8 เดือน เธอเชื่อว่า เป็นความผิดพลาดของ ทีมแพทย์ และ พยาบาล แผนกห้องคลอด ของโรงพยาบาลประจำอำเภอแห่งหนึ่ง ( อ.พญาเม็งราย ) ในจังหวัดเชียงราย



นางสาวเบญจมาศ เฉื่อยกลั่น หรือแนน อายุ 27 ปี เปิดใจกับ ผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า อดีตตนกับแฟนหนุ่มทำงานโรงงาน อยู่ในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่เมื่อปี 2564 เกิดโรคโควิด 19 ระบาด โรงงานเลยปิดตัว จึงย้ายหนีไปอยู่บ้านเกิดของแฟนที่ จ.เชียงราย จากนั้นเกิดตั้งท้องลูกคนแรก ตนกับแฟนจึงตัดสินใจ จะฝากท้องและคลอด ที่ จ.เชียงราย แล้วค่อยย้ากลับมาทำงานที่เดิม ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี



จน วันที่ 5 กันยายน ปี 2565 ได้เข้ารับการคลอดลูกเองโดยธรรมชาติ ที่โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นการคลอดลูกผ่านไปได้ด้วยดี แต่จำได้ว่า ทีมทำคลอด เหมือนเอามีดกรีดช่องคลอด 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะตอนนั้นปวดท้องคลอดหนักมาก จึงอยากจะให้ลูกคลอดออกมาไว ๆ พอลูกคลอดออกมา ลูกแข็งแรงดี ไม่มีความผิดปกติอะไร นอนพักฟื้น 2 วัน ทางโรงพยาบาล ก็อนุญาติให้กลับบ้านได้ ก่อนจะกลับมาโรงพยาบาลอีกครั้ง ในวันที่ 10 กันยายน 2565



พอมาถึงโรงพยาบาล ตรวจสุขภาพของลูกเสร็จ พยาบาลที่ทำคลอด ก็เดินเข้ามาหา และขอตรวจแผลที่ช่องคลอด พอตรวจเสร็จ พยาบาลก็แจ้งว่า แผลไม่ค่อยโอเคเลย รอคุณหมอประจำวันนี้มามาตรวจก่อน ตนก็รอจนคุณหมอมาเข้ามาตรวจอาการ พอหมอตรวจเสร็จ ก็แจ้งว่า มีลมออกทางช่องคลอด ต้องย้ายไปรักษาต่ออีกโรงพยาบาล ในตัวเมือง จ.เชียงราย พอไปถึงโรงพยาบาลแห่งที่ 2 หมอและพยาบาล ก็มาช่วยกันรุมดูแผลที่ช่องคลอด ตนพยายามสอบถาม คุณหมอ ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหมอวินิจฉัยว่า 'มีรอยรั่วที่เกิดจากการทำคลอด' ตอนนั้นยอมรับว่า ไม่เข้าใจว่ารอยรั่วที่หมอบอกว่ามันคืออะไร จนช่วง 6 โมงเย็นของวันที่ 10 ตนก็ถูก พาเข้าห้องผ่าตัดทันที เพื่อเข้ารับการผ่าตัด รักษารอยรั่ว



พอออกจากห้องผ่าตัด ก็พบว่า ตัวเอง ถูกสอดท่อทางจมูกลงไปทางกระเพาะอาหาร เพื่อดูดเอาของเสียในกระเพาะออก เนื่องคุณหมอยังไม่อยากให้ขับถ่ายของเสียผ่านทางก้น เพราะเพิ่งเย็บกระเพราะ อีกทั้งยังถูกเจาะคอ เพื่อให้อาหารผ่านทางเส้นเลือดดำ หลังผ่าตัดผ่านไป 3 วัน ทางพยาบาล ก็มาเอาสายทางจมูกออก ตอนนั้นก็เริ่มโล่งใจแล้ว คิดว่าตนคงหายเป็นปกติ แต่ปรากฎว่า ตนได้เกิดปวดท้องหนัก แต่พอขับถ่ายออกมา ก็ถึงกลับช็อก เมื่อพบว่า อุจจาระของเสียที่ขับถ่ายออกมา ได้ไหลออกมาทั้งทางช่องคลอด และ ทวารหนัก ตอนนั้นยอมรับว่าร้องไห้หนักมาก พร้อมทั้งเล่าอาการให้หมอฟัง



แต่พอหมอมาตรวจ ก็สรุปไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด และ ขอกลับ ไปปรึกษาอาจารย์หมอที่ผ่าตัดร่วมกัน ว่าจะรักษาด้วยวิธีไหน ก่อนที่หมอ จะกลับมาแจ้งว่า ต้องเปิดทวารเทียมมาถ่ายตรงหน้าท้องชั่วคราว ลักษณะยกลำไส้มาถ่ายหน้าท้อง พร้อมทั้งระบุว่า ต้องรอให้แผลข้างล่างมันสมานกัน น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ก็จะหายเป็นปกติ แต่ตอนนี้เวลาผ่านมา 8 เดือนกว่าแล้ว มันก็ยังไม่หายสักที และ ต้องตกอยู่ในสภาพที่เห็น ทำงานไม่ได้ ซึ่งก่อนมีลูก มีชีวิตที่ปกติ ทำงานโรงงานได้เงินเดือน ส่งเงินให้แม่ใช้ แต่พอมาเป็นแบบนี้ ข้อแรก คือเหมือนเราทำงานหนักก็ไม่ได้ ยกของหนักก็ไม่ได้ ลำพังแค่จะอุ้มลูกก็ยังทำไม่ได้เลย ยืนหรือว่าเดินนานเกินไป ก็จะมีเลือดซึมออกมา ตอนนี้ลำบากทรมานมาก ชีวิตเปลี่ยนไป และ ทำไมเราถึงต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้



ตอนนี้ จึงอยาก อ้อนวอน ขอ อาจารย์หมอเก่งๆ หรือ หมอ ที่เชี่ยวชาญ ช่วยตนด้วย เพราะอยากหายจากสภาพแบบนี้ อยากออกไปหาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงแม่ อีกทั้งตอนนี้ ชีวิตแย่มาก มิหนำช้ำ แฟนหนุ่มก็เพิ่งเลิกราไปเมื่อ 1 เดือนก่อน เลยต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ขณะเดียวกัน ต้องซื้อตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ จ.เชียงราย เพื่อไปรักษากับโรงพยาบาล ที่เป็นเจ้าของไข้ ทำเรื่องขอย้ายมารักษาที่ รพ.ในจังหวัดชลบุรี ก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนกล้ารับ ทางโรงพยาบาลที่ทำคลอดครั้งแรก ก็ช่วยเงินมา 20,000 บาท โดยบอกว่า เรี่ยไรกันมาจาก แผนกห้องคลอด มาช่วยเป็นค่าใช่จ่าย จึงอยากขอร้อง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาช่องทางช่วยรักษาตนให้หายเป็นปกติด้วย



นางพรทิพย์ พงษ์เพ็ชร อายุ 55 ปี ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ยอมรับความเครียด และ สงสารลูกสาว พยายามให้กำลังใจ พร้อมทั้งอยากให้หมอเก่งๆ ช่วยรักษาเป็นปกติด้วย โดยก่อนหน้านี้ ลูกสาวเป็น คนร่าเริง และ หน้าตาดี แต่ปัจจุบัน หลังเกิดเรื่องราวต่างๆ ลูกสาวก็เปลี่ยนไปมาจากเดิม