สาวท้องแก่ร้อง รพ.ให้ยาผิด กินยาชาไป 2 ขวด เล่านาทีชีวิตร่างกระตุก หายใจไม่ออก เกือบตาย

จากกรณีเพจอยากดังอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริ์น part6 ได้โพสต์เรื่องราวหญิงท้องแก่ ระบุว่า "ชีวิตคนไข้ 1 ชีวิตนะ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเท็จจริงมันเกิดได้อย่างไร..สาธารณสุขจังหวัดต้องตรวจสอบด้วยแล้ว...มีมาตรการการแก้ไขป้องกันที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีกไหม???"

โดยหญิงรายดังกล่าวเล่าว่า วันจันทร์ 22 พ.ค. 66 มีนัดเจาะเลือดตรวจเบาหวาน ตรวจต่างๆ แล้วต้องกลืนน้ำตาล เจ้าหน้าที่เรียกให้ไปรับขวดยาเหมือนขวดน้ำตาลมากิน เราก็ดูดไปแต่มันขมแล้วชาที่ปากที่คอ เลยหยุดกิน ในใจคิดว่าเราคงมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เขาถึงเอายาขมๆ มาให้กิน คือไม่ได้คิดว่ามันอันตราย เพราะว่ามา รพ.ไม่ได้คิดว่าจะเจอความสะเพร่าแบบนี้ แล้วคือเขาเรียกชื่อเราเข้าไปตรวจ เราบอกว่ายังกินไม่หมด มันขม แต่ไม่รู้ว่าเขาได้ยินหรือเปล่า ด้วยความที่อยากกลับไวๆก็เลยกลั้นใจกินจนหมด 2 ขวดแล้วเดินไปบอกว่ากินหมดแล้ว

ต่อมา พยาบาลก็เรียกเข้าห้องตรวจ ฟังเสียงหัวใจลูก เราเลยถามว่าหมอเปลี่ยนยาเหรอ ทำไมมันขม แต่เขาตอบว่า ไม่ได้เปลี่ยน กินน้ำตาลต้องหวานสิ เราเลยบอกว่า เรากินแล้วขม ชาปากชาคอ เขาเลยให้เราไปหยิบขวดมาดู สรุปคือมันไม่ใช่น้ำตาล แต่มันคือยาชาที่เบิกมาเพื่อจะเอาไว้ฝังเข็มยาคุม เขาให้เรานั่งรอประมาณ 10 นาที พอเขาพยุงไปนอน คือยามันออกฤทธิ์แรงมาก รู้สึกอยู่ตลอดแต่ขยับไม่ได้

เริ่มเวียนหัวแบบบ้านหมุนราวๆ 20 นาที มือเท้ากระตุกตลอด ความดันขึ้น จนต้องวัดคลื่นหัวใจ เริ่มหายใจไม่ออก ร่างกายเริ่มกระตุกรุนแรงขึ้น ขาดอากาศไปแปปนึง ตอนนั้นคือในตาที่หลับมันมืดดำไปเลย พยายามอ้าปากให้มีอากาศเข้า สติเริ่มหายแต่มีอากาศเฮือกสุดท้ายที่หายใจเข้า กลัวตัวเองตาย กลัวลูกในท้องตาย

ต่อมา ทีมข่าวได้ตรวจสอบไปยังโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลถูกสั่งห้ามพูดถึงเรื่องดังกล่าว และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวสอบถาม จึงประสานงานไปยังสาธารณสุขจังหวัด แจ้งว่าได้รับการรายงานจากทางโรงพยาบาลแล้ว สั่งการให้เร่งดูแลรักษาคนไข้รายนี้และเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้รีบรายงานสรุปอาการของคนไข้กลับมาโดยด่วน และยังได้กำชับให้หมอ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลต้องเพิ่มความรอบคอบให้มากกว่านี้