หนุ่มร้อง เอาเสื้อผ้าไปซัก ถูกขโมยยกตะกร้า รวมมูลค่ากว่า 5 หมื่น

หนุ่มฟิตเนสโค้ชสุดช้ำ เอาเสื้อผ้ามูลค่า 4-5 หมื่นไปซัก ถูกชายรื้อค้น ก่อนยกไปทั้งตะกร้า ขับจยย.หนีหาย วอนขอคืนเพราะเสื้อผ้ามีคุณค่าต่อจิตใจ



เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 เวลาประมาณ 04.00 น. กล้องวงจรปิด ที่ร้านซักผ้าแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ถ.ศรีมารัตน์ ต. ในเมือง อ.เมือง จ. ขอนแก่น สามารถจับภาพชายรายหนึ่ง อายุประมาณ 25 - 30 ปี สวมหมวกแก๊ปสีดำ ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมชุดยูนิฟอร์มของบริษัทรถชื่อดังแห่งหนึ่ง เดินเข้ามาภายในร้าน แล้วเดินวนไปมาหลายรอบ ก่อนจะเดินที่ตะกร้าผ้าสีเขียว ซึ่งมีเสื้อผ้าอยู่เต็มตะกร้า ก่อนที่รื้อค้นอยู่สักพัก จากนั้นก็รีบยกตะกร้าผ้าออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วขับออกไป



โดยเจ้าของตะกล้าผ้าได้นำคลิปมาโพสต์ร้องเรียน พร้อมระบุข้อความ “ผมอยากรบกวนพลังโซเชียลขอนแก่น ช่วยผมด้วยครับ ผ้าผมโดนหยิบผิดไป หรือ เจตนาขโมยผมไม่แน่ใจครับ แต่หากใครรู้จักคนลักษณะประมาณนี้ขับรถรุ่นนี้ รบกวนติดต่อกลับหาผมด้วยนะครับ ผมเดือดร้อนจริงๆ ครับ เพราะเสื้อบางตัวมันมีมูลค่ามาก ๆ ทางด้านจิตใจจริง ๆ เพราะบางตัวเพื่อนซื้อให้ แฟนซื้อให้ รวมไปถึงตัวที่ตั้งใจจะซื้อเองเพราะอยากได้จริง ๆ รบกวนทุกคนด้วยนะครับ”



นายปยุต ตันตุลา อายุ 26 ปี อาชีพทำธุรกิจร้านเหล้าและเป็นฟิตเนสโค้ช ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ปกติตนได้นำผ้ามาซักที่ร้านเป็นประจำ และไม่เคยมีเหตุการณ์ขโมยตะกร้าผ้ากันเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งส่วนตัวตนมองว่า ไม่ใช่เป็นการหยิบตระกร้าผิดไปเป็นแน่ เนื่องจากมีการรื้อค้นก่อนที่จะยกไป ซึ่งขณะที่รื้อค้นนั้น ก็มีเสื้อ 1 ตัวได้ตกออกจากตะกร้า แต่ถ้าเป็นเจ้าของตระกร้าผ้า ตามวิสัยของคนปกติแล้ว ต้องหยิบเอาผ้าที่ตกลงไปด้วย แต่นี้คือยกไปด้วยอาการเร่งรีบ ต้องไม่ใช่คนที่หยิบตะกร้าผิดไปเป็นแน่ ซึ่งเสื้อผ้าในตะกร้าที่คนร้ายยกไปนั้น มีเสื้อผ้าแบรนด์เนม ราคาสูงสุดอยู่ที่ตัวละ 14,000 บาท ไม่รวมกับเสื้อตัวอื่น ๆ ที่เพื่อนและแฟนซื้อให้ มูลค่าทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 4-5 หมื่นบาท ทั้งตะกร้า



ทั้งนี้ จึงอยากฝากไปยังผู้ที่นำตะกร้าผ้าตนเองไปว่า ไม่ว่าจะด้วยความเดือดร้อนเพราะสาเหตุใด คุณไม่สมควรที่จะใช้วิธีการขโมยแบบนี้ เพราะเหมือนกับนำความเดือดร้อนของตนเองไปยัดเยียดให้กับคนอื่นเดือดร้อนไปด้วย อยากให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่าง ซึ่งผู้ที่ขโมยตะกร้าตนเองไป หากได้รับรู้ข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ ที่ออกไปแล้ว ก็ให้นำกลับมาคืน ด้วยวิธีไหนก็ตาม ตนจะไม่เอาเรื่องอะไร แค่อยากได้ของของตนเองกลับมา เพราะมันมีค่าทางจิตใจ หากไม่นำมาคืนภายใน 3-4 นี้ ก็คงต้องแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพื่อไม่ให้ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับใครอีก