วุ่น! อดีตเมีย ‘เสี่ยปาน 30 ล้าน’ จ่อฟ้องผู้ดูแลมรดก หากยังเบี้ยวไม่จ่าย 3 ล้านให้ลูกชาย

อดีตเมียเสี่ยปาน เผยหากไม่ได้เงินมรดกตามพินัยกรรม 3 ล้านให้ลูกชาย ขอใช้สิทธิ์ฟ้องป้าเก้า ผู้จัดการมรดก ข้อหายักยอกทรัพย์ ลั่นอย่าหาว่าใจดำ ขณะพี่สาวคนโตออกมาแฉข้ามประเทศ คาดเงินหมดแล้วเพราะชอบเล่นพนัน

กรณีมรดกของเสี่ยปาน 30 ล้าน หลังเสียชีวิต น.ส.เสาวณีย์ ทองวิเศษ อายุ 37 ปี หรือ มด อดีตภรรยาเสี่ยปาน ร้องไม่ได้เงินมรดกให้น้องเกาลัด ลูกชายของเสี่ยปาน โดยน.ส.สุธีรา แก้วสวนจิก หรือ เก้า พี่สาวของเสี่ยปานที่เป็นผู้ดูแลมรดก แอบขายที่ดินของเสี่ยปานหลายสิบไร่ได้แล้วก็ไม่ยอมส่งเงิน 2,000,000 บาทเข้าบัญชีลูกชายเสี่ยปาน และอีก 1,000,000 บาทจะต้องส่งเดือนละ 7,000 บาท จนกว่าลูกชายจะครบ 20 ปี ก็ยังไม่ได้ ตั้งแต่เสียปานเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 65 จากนั้นผู้จัดการมรดกได้หลบหนีไปอยู่ภูเก็ตตั้งแต่ต้นปี 66 ที่ผ่านมา มีข่าวว่า เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยหาแฟนชาวต่างชาติ

ขณะเดียวกันพี่สาวคนโตของเสี่ยปาน หลังเกิดเรื่องมรดกเสี่ยปานก็ออกมาแฉเดือดข้ามประเทศว่า เก้า น้องสาวคนรอง ไม่ทำตามพินัยกรรมของเสี่ยปาน เพราะหวังฮุบทรัพย์สินและเงินในพินัยกรรมของหลานชาย ทั้งๆ ที่ได้ไปเยอะแล้ว ทั้งมีความโลภ ไม่เคยเปลี่ยนนิสัยเดิมๆ เรียกว่าคนตายขายคนเป็น ทุกข์ทรมานทั้งคนที่ตายทั้งคนที่เป็น เงินทองไม่เข้าใครออกใคร ความวุ่นวายจึงไม่จบไม่สิ้น กรรมไม่แบจริงๆ

พี่สาวคนโตของเสี่ยปานเชื่อว่า ผู้จัดการมรดกของเสี่ยปานใช้เงินหมดแล้ว เพราะติดการพนัน แต่ก็ยังให้โอกาสกลับมาเคลียร์และจ่ายเงินตามพินัยกรรมให้หลาน ไม่อย่างนั้นจะเดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อให้เรื่องนี้จบ และน้องเกาลัด หลานชาย ต้องได้เงินตามพินัยกรรม 3 ล้านบาท จะเป็นอื่นไปไม่ได้

ต่อมาวันที่ 11 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับอดีตภรรยาเสี่ยปาน 30 ล้าน โดยมียายบุญ และน้องเกาลัดอยู่บ้านกันอย่างพร้อมเพรียง น.ส.มด นำพินัยกรรมมาพร้อมกล่าวว่า หลังจากป้าเก้าออกมาเปิดเผยกับนักข่าวว่า เงินจะให้น้องเกาลัดเมื่ออายุครบ 20 ปีนั้นไม่ใช่ตามที่ป้าเก้าพูด เพราะตามพินัยกรรมบอกไว้ว่า หลังจากขายที่ดินได้ เงินจำนวน 3,000,000 บาทให้น้องเกาลัด แบ่งเป็นเงินสด 2,000,000 บาทโอนเข้าบัญชีน้องเกาลัด และอีก 1,00,000 บาท จะแบ่งจ่ายให้เงินเดือนละ 7,000 บาทจนกว่าน้องเกาลัดจะครบ 20 ปี ข้อเท็จจริงตามพินัยกรรมเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้ป้าเก้า ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกขายที่ได้แล้ว จะบอกว่า จะเอาเงินที่ขายได้ไปจ่ายค่าโอน ภาษี คงไม่ใช่ เพราะป้าเก้าขายที่หลายแห่ง เธอไม่รู้ว่าเงินตามพินัยกรรมยังเหลืออยู่หรือเปล่า หากเงินเหลืออยู่ทำไมไม่ให้หลานตามพินัยกรรม หรือเงินหมดแล้วเลยจำเป็นต้องหนีตามที่ป้าติ๋วพูดเอาไว้ ในเรื่องนี้หากวันที่ 30 มี.ค.66 ป้าเก้าไม่มา ขอใช้สิทธิพึงที่ควรกระทำได้คือฟ้องร้องข้อหายักยอกทรัพย์ จะหาว่าเธอใจดำไม่ได้ เพราะน้องเกาลัดลูกชายคนเดียวของปานควรจะได้เงินตรงนี้ ส่วนที่เหลือบอกไปแล้วว่าจะไม่ขอยุ่ง จะมีเงินในบัญชี 10 หรือ 20 ล้าน ไม่ขอไปยุ่งเกี่ยวแน่นอน หากไม่มีเงินมาให้ คุณมีอะไรก็ขายมา และก็ขอเป็นก้อน ไม่ผ่อนส่ง เพราะกลัวมีปัญหาอีกในอนาคต ไม่ขอมาก ขอแค่ตามพินัยกรรมที่เขียนไว้ 3 ล้านบาทเท่านั้น และอยากฝากถึงป้าเก้า ขอให้มาทำตามพินัยกรรม จริงๆ แล้วก็ไม่อยากฟ้อง แต่ไม่ทำตามพินัยกรรม ติดต่อก็ไม่รับ

ขณะที่น้องเกาลัด กล่าวว่า ตอนพ่อปานยังอยู่ พ่อจะมาหาผมบ่อยมาก ซื้อของเล่นมาฝากหรือพาผมไปตกปลา และผมชอบกินลาบหมู พ่อก็จะทำให้กิน ตอนนี้ผมคิดถึงพ่อครับ เคยฝันเห็นพ่อมาหา พ่อไม่พูดอะไร พ่อก็หายไป ผมรักและคิดถึงพ่อมากครับ ผมอยากให้ป้าเก้าเอาเงินมาให้ผมด้วยครับ พ่อปานบอกอย่างนั้น