แม่ร้องสื่อ ลูกวัย 13 มีปากเสียงกับคนในโซเชียลเพราะเรื่องกดหัวเราะรูป ถูกยกพวกรุมถ่ายคลิปประจาน

แม่รับไม่ได้ เดินหน้าร้องสื่อ “ลูกสาววัย 13” มีปากเสียงกับคนในโซเชียล เพราะถูกกดหัวเราะในรูป เลยถามกลับไปว่า “หัวเราะทำไม” ท้าทายกันไปมา ก่อนที่อีกฝั่งจะยกพวกบุกมารุมทำร้ายในโรงเรียน ซ้ำยังถ่ายคลิปไปประจานลงโซเชียล พ่อแม่มาขอโทษแต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่สำนึก

วันนี้ (15 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวเมวิกา เสล่ราฏร์ อายุ 31 ปี ชาว ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ร้องขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง หลังลูกสาว ชื่อเล่นว่า น้องด้า (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เรียนหนังสืออยู่ชั้นประถมปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองธง อ.ป่าบอน ถูกกลุ่มนักเรียนต่างโรงเรียนบุกมาทำร้ายลูกสาวในโรงเรียน ขณะที่กำลังดูแลแปลงเกษตร จนได้รับบาดเจ็บที่ต้นคอ และศีรษะพร้อมกันนั้นได้ให้เพื่อนถ่ายคลิปโพสต์ลงในโซเชียลทำให้อับอาย จนลูกสาวจิตตก

ขณะที่ลูกสาวเล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธุ์ 2566 ที่ผ่านมา จังหวะที่ตนเองพร้อมเพื่อนได้รดน้ำผักที่แปลงเกษตรของโรงเรียน มี นางสาวซาลิต้า (นามสมตติ) พร้อมเพื่อน ได้ขับรถจักยานยนต์มาพร้อมเพื่อนก่อนมาจอดแล้วได้ทำร้ายร่างกายเธอ พร้อมทั้งให้เพื่อนถ่ายคลิปโพสต์ประจานในเวลาต่อมา จนได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นคอและศีรษะ ขณะที่เพื่อนที่อยู่ด้วยกันจะเข้ามาห้าม เพื่อนของชาลิต้าที่ก่อเหตุที่ยืนมุงดูชักอาวุธมีดออกมาบอกว่าใครเข้ามาจะแทงให้ตาย จนไม่มีใครเข้าช่วย ก่อนทั้งหมดได้ขับรถหลบหนีไป


โดย น้องด้า ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าไม่ได้รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัว แต่คาดการณ์ว่าสาเหตุเกิดจากที่ตนโพสต์ภาพตัวเองลงในสตอรี่ แล้วเพื่อนของคู่กรณีมากดรูปหัวเราะทั้งที่ไม่ได้รู้จักกัน ตนจึงถามกลับไปว่ามาหัวเราะทำไม อีกฝ่ายตอบกลับว่าเสือก ก่อนจะมีปากเสียงโต้ตอบกันไปมา

ด้านแม่ของผู้เสียหายเปิดเผยว่า ขณะที่ขับรถกลับจากทำงานป้าของลูกโทรศัพท์ไปบอกว่าว่าลูกสาวถูกเพื่อนทำร้ายร่างกาย ตอนแรกเข้าใจว่าลูกถูกเพื่อนทำร้ายกันตามประสานเด็กไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอมีการนำคลิปขณะที่มีการทำร้ายลูกลงไปโซเชียลถึงกับใจสลาย ไม่นึกว่าเหตุการณ์จะรุนแรงซึ่งแม่รับไม่ได้ อีกทั้ง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 66 เป็นวันเกิดลูกสาว กะว่าตอนเย็นจะชื้อขนมเค้กมาเลี้ยงวันเกิด แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนเลี้ยงลูกมา 3 คน คนที่ถูกทำร้ายเป็นคนโต ลูกแต่ละคนตนเองไม่เคยทำร้ายรุนแรงอย่างดีก็แค่ดุ ซึ่งเรื่องดังกล่าวรับไม่ได้ และได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความต่อ สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

โดยหลังเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวเองมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมระบุว่าเรื่องเด็กทะเลาะกันมันยุ่งยาก ให้ไปคุยปรึกษากับคู่กรณีกันก่อน ต่อมาพ่อแม่ผู้ก่อเหตุ ได้พาผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วย พร้อม นส.ซาลิต้า มาขอโทษ แต่กลับไม่สำนึกยังมากล่าวต่อว่าต่างๆ นา ตนรับไม่ได้ทั้งที่ลูกตัวเองถูกกระทำ จึงได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้ลูกสาวกับผู้สื่อข่าว ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ป่าบอน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้รับข้อมูลจากพนักงานสอบสวนแต่อย่าง