ระทึก! รถบัสนักบอลรร.ดัง ขับตามจีพีเอส ชนทางลอดใต้สะพานระหว่างไปแข่ง

รถบัสนักฟุตบอลโรงเรียนดัง ชนทางลอดใต้สะพานถนนมอเตอร์เวย์ บาดเจ็บ 11 คน

โค้ชเผย กำลังพานักฟุตบอลไปแข่งที่สนาม อ.บางเสาธง ขณะขับตาม GPS มาถึงทางลอดสะพาน คิดว่าลอดได้ แต่สุดท้ายชนเข้าอย่างจัง โชคดีเด็กเจ็บเล็กน้อย

วันนี้ (15 ม.ค. 66) ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนขนาดประมาณ 45-60 ที่นั่ง ชนทางลอดใต้สะพานถนนมอเตอร์เวย์ ประมาณ กม.30 สาย 7 ถนนเลียบคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดเปร็ง ,จุดบางบ่อ เดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานลอดถนนมอเตอร์เวย์ พบรถบัสโดยสารขนาดใหญ่ ของโรงเรียนชื่อดังย่านหนองจอก กรุงเทพมหานคร มีนักฟุตบอลอะคาเดมี อายุ 14 ปีของทีมโรงเรียนฯ โดยสารมาเต็มคันรถ อยู่ในสภาพช่วงหน้ารถ หลังคายุบพังเสียหาย เก้าอี้แถวหน้าหลุดลงมากองกับพื้น ในรถบัสมีผู้โดยสารมากันทั้งหมด 32 คน เป็น นักเรียน 26 คน โค้ช 6 คน ทำให้เด็กฯได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 11 คน และ โค้ช 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์ บางบ่อ ส่วนนักเรียนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำทั้งหมดเดินทางต่อไปที่สนามแข่งขันเพื่อให้ทันเวลา

จากการสอบถาม เด็กนักเรียนที่โดยสารมาในรถคันดังกล่าว กล่าวว่า ตนและเพื่อน รวม 26 คน เดินทางมาจากหนองจอก เพื่อไปเตะฟุตบอลที่สนามใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรู้ตัวอีกที รถที่โดยสารมาชนเข้ากับสะพานฯแล้ว ทำให้มีเพื่อนได้รับบาดเจ็บประมาณ 10 คน และโค้ช 2 คน

ส่วนโชเฟอร์รถบัสดังกล่าว (โค้ช) กล่าวว่า ตนไม่รู้เส้นทางจึงได้เปิด GPS เพื่อนำทาง ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนเห็นสะพาน คิดว่าน่าจะสามารถรอดผ่านได้ ซึ่งสตาฟโค้ชฟุตบอลที่เป็นคนดูทางบอกว่าสามารถลอดผ่านได้ ซึ่งตน ก็ขับชะลอ เบาๆ แล้ว แต่คาดการณ์ผิด หลังคารถฯ จึงชนเข้ากับสะพานอย่างจัง โชคดีที่เด็กนักเรียน บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย โดยรถบัสฯ ยังสามารถขับได้ ตน จะนำกลับไปซ่อมที่อู่ย่าน หนองจอก ต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบรถบัสคันดังกล่าว คาดว่าคนขับ น่าจะนำรถฯ กลับไปที่แคมป์พักย่านหนองจอก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จะได้หาข้อมูลฯ จากอสาสมัครมูลนิธิฯและผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป