แก๊งขนยางพาราเถื่อน ทิ้งยางแผ่นดิบ 2,500 กก. กระโดดน้ำหนีจนท. จับได้ 1 ราย ยอมรับเป็นเจ้าของ

ทหารชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ปลอมตัวเป็นชาวประมงพื้นบ้าน เดินย้ำโคลนในป่าชายเลน เข้าทำการจับกุมแก๊งลักลอบขนยางพาราเถื่อนข้ามแดน ทันทีเจ้าหน้าที่เข้าถึง ต่างกระโดดน้ำหลบหนีไป รวม 9 ราย ทิ้งของกลาง เรือหางยาว 1 ลำ รถยนต์กระบะ 1 คัน และยางพาราหนีภาษี 2,500 กก. ได้ผู้กระทำผิด ชาวไทย 1 ราย รับเป็นเจ้าของ



เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 น. พันเอก ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีการลักลอบนำเข้ายางพาราหนีภาษี จากฝั่งประเทศเมียนมา ข้ามชายแดนแม่น้ำกระบุรี เข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่บ้านทับจาก ม.4 ต.บางใหญ่ อ.กระบุรี จ.ระนอง จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 นำกำลังเข้าทำการซุ่มตรวจ และทำการจับกุมแก๊งลักลอบขนสินค้าการเกษตรไม่ผ่านพิธีการศุลกากรทันที



โดยกำลังเจ้าหน้าที่ ต้องปลอมตัวเป็นชาวประมงพื้นบ้านออกหาปลา เพื่อให้ปลอดสายตาจากคนซุ่มระวังเหตุ จากนั้นได้แอบเดินเท้าเปล่า ย้ำดินโคลนแนวป่าชายเลน เพื่อเข้าไปให้ถึงจุดท่าเรือ ที่กำลังมีการใช้เรือหางยาวเครื่องยนต์ขนถ่ายยางพาราแผ่นดิบ ขึ้นรถยนต์กระบะตอนเดียว ทันทีที่แก๊งขนยางพาราเห็นเจ้าหน้าที่วิ่งเข้าแสดงตัวเพื่อทำการจับกุม กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมด ได้กระโดดลงน้ำ ว่ายน้ำหลบหนีไปอีกฝั่งทันที ไม่ยอมให้จับกุม เจ้าหน้าที่ยืนนับได้ จำนวนทั้งหมด 9 คน



พร้อมตรวจยึดเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ ที่บรรทุกยางพาราน้ำหนัก 1,500 กก. และตรวจยึดรถยนต์กระบะตอนเดียวเสริมรั้วสูง สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน ระนอง และยางพาราน้ำหนัก 1,000 กก. รวมยางพาราแผ่นดิบทั้งหมด 2,500 กก. ในเวลาต่อมาสามารถควบคุมผู้ต้องหาชาย ได้ 1 ราย ชื่อ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี แสดงตัวเป็นคนขับรถและเจ้าของยางพาราแผ่นดิบหนีภาษี จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดว่า ลักลอบนำสินค้าทางการเกษตรเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งด่านศุลกากร จ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป