สังคม

จับแล้ว! สาวไทยเมียนักธุรกิจชาวต่างชาติ ตัวบงการยกเค้าโรงแรมหรู ค้นโกดังเจอของกลางอื้อ

โดย nicharee_m

9 ก.ย. 2565

3.2K views

ตำรวจนำกำลังบุกค้นโกดังแห่งหนึ่ง ถึงผงะ พบของกลางบานประตู หน้าต่าง อุปกรณ์ สวิตช์ ปลั๊กไฟ อุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เหล็กโครงหลังคา และทรัพย์สินต่างๆ ที่ถูกขโมยไปจากโรงแรมหรูไปก่อนหน้านี้ มูลค่าความเสียหายประมาณ 70 ล้านบาท ล่าสุดสามารถจับกุมตัวภรรยานักธุรกิจสวิตเซอร์เเลนด์ ผู้บงการในการวางแผนเข้าขโมยทรัพย์สินในโรงแรมทั้งหมด

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.ย.65 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจาก นาง วารี โชคคณาพิทักษ์ ว่า พร้อมด้วย นางยมนา พูลสวัสดิ์ ทั้งสองเป็นเจ้าของโรงแรมบลูลากูน เดอะ ทีค วิง ตั้งอยู่ที่ ม.2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีคนร้ายเข้าไปลักเอาทรัพย์สินภายในโรงแรมดังกล่าว จนได้รับความเสียหายมากกว่า 70 ล้านบาท ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้


ล่าสุด ทาง พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.อนุมัติ รื่นพานิช รอง.ผกก.สส. พ.ต.ต.ภานุมาศ ช่วยเกื้อ สว.สส.พร้อมกำลังตำรวจสืบสวน ได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ และขยายผลสืบสวนของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นทราบว่า สถานที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าว ได้ถูกเช่าเพื่อไปทำเป็นโรงแรมตั้งแต่ปี 2533 ภายใต้สัญญาเช่า 30 ปี ครบกาหนดเมื่อปี 2563 โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ได้รับพื้นที่ดังกล่าวคืนพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (โรงแรมและทรัพย์สินภายในโรงแรมทั้งหมด)

เมื่อประมาณปลายปี 2564 ซึ่งทางผู้เสียหายได้มีการจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยมาดูแลในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะปล่อยทิ้งร้างหลังจากหมดสัญญาจ้างกับพนักงานรักษาความปลอดภัย ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 ผู้เสียหายได้เข้าไปตรวจดูภายในโรงแรมพบว่า มีทรัพย์สินภายในโรงแรมสูญหายไปเป็นจำนวนมากมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 23.5 ล้านบาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ่อผุด ภ.จว.สุราษฎร์ธานี


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เช่าเดิมที่เพิ่งส่งมอบที่ดินคืนให้แก่ผู้เสียหาย และได้วางแผนกลับมาลักเอาทรัพย์สินภายในโรงแรมดังกล่าวเพื่อนำไปขายต่อ เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จานวน 9 ราย ประกอบด้วย


1. นายโอมชัยศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เป็นผู้วางแผน 2. น.ส.ณัชชา หรือแพท (ของวนนามสกุล อายุ 31 ปี “ภรรยาของนักธุรกิจสวิสตเซอร์เเลนด์” เป็นผู้วางแผน 3. น.ส.ขวัญใจ หรือน้อย อายุ 40 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์4. นายอภิพัฒน์ หรือโอ๊ต อายุ 33 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 5. นายกฤษณะ หรือหนุ่ย อายุ 33 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 6. Mr.Thuya Soe อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 7. Mr.Min Phyo Aung อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 8.Mrs.Phyu อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 9. น.ส.ภัคจิรา อายุ 42 ปี เป็นผู้รับซื้อของที่ได้มาจากการลักทรัพย์

สำหรับของกลาง ที่ทางเจ้าหน้าที่ติดตามยึดมาได้หลายรายการ ได้แก่ รถที่ใช้ใน การก่อเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน ชุดถังแก๊สที่ใช้ในการตัดเหล็ก จำนวน 1 ชุด ท่อนเหล็ก วงกบประตู บานหน้าต่างไม้ แผ่นเมทัลชีท ที่ได้จากการลักมาจากที่โรงแรมจำนวนมาก มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายประมาณการในครั้งแรกประมาณ 17,548,000 บาท



ขณะนี้สามารถติดตามกลับมาได้จำนวน 381 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 659,000 บาท และตรวจพบทรัพย์สินในที่เกิดเหตุที่ยังไม่สูญหาย จานวน 1,001 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,557,500 บาท สรุปความเสียหายเบื้องต้นคิดมูลค่าประมาณ 14,334,500 บาท

โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ นี้จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสาหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วย ประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” อัตราโทษจาคุก ต้ังแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

ในเบื้องต้นจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหา ทราบว่า น.ส.ณัชชา หรือแพท ซึ่งเป็นภรรยานักธุรกิจชาวสวิตเซอร์เเลนด์ เป็นผู้วางแผนในการขโมยทรัพย์สิน ในโรงแรมดังกล่าว โดยในบ่ายวันนี้ ทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.จะเดินทางมาทำการแถลงข่าวปิดจ๊อบในคดีนี้



คุณอาจสนใจ