สังคม

เร่งขยายผลคดียกเค้าโรงแรมหรูบนเกาะสมุย เสียหายกว่า 70 ล้าน

โดย panisa_p

6 ก.ย. 2565

59 views

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ติดตามผู้ก่อเหตุยกเค้าทรัพย์สินภายในโรงแรมหรูบนเกาะสมุย กว่า 70 ล้านบาท โดยขณะนี้สามารถติดตามคนร้าย


จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้ายกเค้าทรัพย์สินภายในห้องพักของโรงแรมเฉวงบลูลากูล เดอะทีค วิง โดยทรัพย์สินที่ไดัไป บานประตู หน้าต่าง เตียง ฝักบัว โต๊ะ ตู้ ฯลฯ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท ซึ่งนางยมนา พูลสวัสดิ์ เจ้าของที่ดินเป็นคนไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี


พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังตำรวจสืบสวน ภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจสืบสวน ภาค 8 เดินทางลงพื้นที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด และกำลังตำรวจ สืบสวน สภ.บ่อผุด ให้การต้อนรับ พร้อมได้เชิญ นางยมนา พูลสวัสดิ์ เจ้าของที่ดินที่ให้นักธุรกิจชาวสวิสต์เซอร์เเลนด์ นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ร่วมประชุม และรับฟังการรายงานผลการติดตามคนร้าย รวมทั้งรายงานพฤติกรรม การก่อเหตุของคนร้าย โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง


จากนั้น ทาง พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อม ตำรวจสืบสวน และผู้เสียหาย คือนางยามนา ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณโรงแรม บลูลากูล เดอะทีค วิง สมุย บริเวณชายหาดเฉวง หมู่ 2 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย เพื่อตรวจสอบความเสียหาย ที่คนร้ายเข้าไปก่อเหตุ ตัดเหล็กราวบันได และเหล็กโครงหลังคา รวมทั้งบานประตู หน้าต่าง ที่เป็นไม้สัก และความเสียหาย


โดยนางยมนา พูลสวัสดิ์ ผเจ้าของโรงแรมผู้เสียหาย เปิดเผยกับทาง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า ทรัพย์สิน โครงสร้างตัวอาคารทั้งหมดที่เสียหายไป ทางกองช่างเทศบาลนครเกาะสมุย ได้เข้ามาตรวจสอบประเมินความเสียหาย ที่เป็นตัวอาคารและโครงสร้างตัวโรงแรม ฝ้าเพดาน และทรัพย์สินต่างๆ จากการประเมินเป็นวงเงิน จำนวน 70 ล้านบาท


ซึ่งพบว่าคนร้ายได้เริ่มขนย้ายตัดเหล็กโครงหลังคา รวมทั้งราวบันได และขนย้ายบายปนะตูหน้าต่างไป กว่า 3 เดือนแล้ว เเละยังพบว่าเหล็กราวกั้นห้องอีกจำนวนหนึ่ง ที่คนร้ายยังไม่ได้ตัด แต่มาเกิดเจ้าของมาตรวจสอบ และแจ้งความจนเป็นข่าวดังกล่าว


ซึ่งทาง พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวในที่เกิดเหตุว่า หลังเกิดเป็นกระแสข่าว ทาง สนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สุรเชษบ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.ได้หมอบมหาย และ สั่งการให้มาดูเหตุลักทรัพย์สินสูญหาย ที่โรงแรมบลูลากูล เดอะทีค วิง สมุย ที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบของท้องที่ สภ.บ่อผุด


ในเบื้องต้นได้รับข้อมูลจากที่มีการประชุม และได้มีการสอบถามนางยมนา พูลสวัสดิ์ ผู้เสียหายเอง พร้อมทั้งคนงานที่ดูแล และ จากการสืบสวนที่ผ่านมาหลังจากได้รับแจ้ง ก็ได้เห็นตามสภาพ ที่มีร่องรอยความเสียหายเกี่ยวกับตัวอาคาร มีร่องรอยการรื้อค้น และ ทำลาย และมีการนทรัพย์สินำออกไปหลายช่องทาง ทั้งอุปกรณ์ เหล็ก และอุปกรณ์ ขนาดใหญ่ ออกไป ซึ่งแนวทางการสืบสวนมีการแบ่งหน้าที่ ในด้านการสืบสวน สอบสวน หาข่าว และในวันนี้ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวนของจังหวัด ลงมา เพื่อร่วมคลี่คลายคดี


ซึ่งในเบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เพิ่มมาอีก 3 ราย เป็น 6 ราย แล้ว เป็นคนไทย 3 คน ต่างด้าว 3 คน ในส่วนการชยายผลต่อเนื่อง ได้ขยายผลไปซึ่งคาดว่าเป็นผู้รับซื้อ รับฝากของที่คนร้ายได้นำออกไป ซึ่งจะมีการขยายผลจากจุด และตรวจสอบรวมถึงช่องทางในการรับซื้อของเก่า ต่างพื้นที่ ก็ให้ตำรวจชุดสืบจังหวัด และสืบภาค 8 เข้ามาขยายผลต่อ และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ในส่วนของการติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และติดตามทรัพย์สินที่โดนขโมยออกไป กลับมาให้มากที่สุด หากมีการขยายไปถึงใครก็จะไม่มีการละเว้น ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานีกล่าว


ทางด้าน นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย และเป็นญาติกับนางยมนา เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นสัญญาการเช่าที่ดิน หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 และ และคนเช่า ก็ยังอยู่ในพื้นที่จนกระทั่งปลายปี 2564 ในสัญญาก็มีการส่งมอบพื้นที่ ให้กัน อย่างไม่เป็นทางการ และ ก็ไม่มีบัญชีการส่งมอบแต่อย่างใด แต่ในส่วนอุปกรณ์ต่างๆอย่างเช่นทรัพย์สินในตัวอาคารทางคนเช่าได้นำกลับออกไป ซึ่งคุณป้ายมนา เจ้าของเองก็ไม่ได้ติดใจ


ซึ่งในสัญญาผู้ให้เช่า ไม่อยากให้มีปัญหาซึ่งกันและกัน จนกระทั่งมีการสำรวจทรัพย์สินตัวอาคาร พบว่ามีตัวที่เป็นอุปกรณ์ ส่วนควบตัวเฟรมหน้าต่างกระจกต่างๆ มีการถอดออกไปตรงนี้ ก็ทำให้คุณป้ายมนา ได้มาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวเกาะสมุย ก็ได้เข้ามาดูแล และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ซึ่งในส่วนทรัพย์สินจากการประเมินของส่วนควบขณะที่ทรัพย์สินในส่วนควบที่เสียหายไปก็ประมาณ 70 ล้านบาท


จากกรณีที่มีข่าวว่าโรงแรมเพิร์ลและทรัพย์สินสูญหายจากกระแสข่าวที่ออกไปความรู้สึกตัวโรงแรมเองก็ได้พูดคุยกับเจ้าของแรมเองผู้เช่าช่วงก็ไม่ได้เช่าต่อแล้วคุณป้าเองก็ไม่ได้ก็ไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะเปิดโรงแรมในส่วนโรงแรมก็เป็นโรงแรมใหม่แล้วก็ไม่ได้มีการมากตั้งใจว่าจะเปิดในเร็วนี้แล้วก็จะมีการพูดคุยรอให้มีผู้เช่าเข้ามาเช่า


จากกระแสข่าวที่ออกไปอยากให้สื่อมวลชนช่วยกรองข่าว ให้ออกมาในทิศทางที่ดีด้วย เหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการละหลวมของเจ้าที่แต่อย่างใด ซึ่งสถานที่ค่อนข้างจะเป็นอัตราที่มุมอับและกระบวนการที่เข้ามาไม่ได้เข้ามาขนไปในครั้งเดียว ต้องเรียนว่ามีระยะเวลานับปีในการขนย้ายออกไปและทางผู้ที่มาเฝ้าเนี่ยก็เป็นรอพอคนสวนก็ไม่ทราบว่าผู้ที่เข้ามาเนี่ยเป็นผู้ก่อเหตุซึ่งซึ่งอาจจะทราบว่าเป็นผู้รับเหมาของคุณป้าเอง


นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนตรงนี้คุณป้ายมนาเองก็ไม่ได้ติดใจในส่วนที่ผู้เช่าขนของออกไป ทรัพย์สินที่สามารถยกออกไปได้ ถือว่าชัดเจนในตัวเงื่อนไขของสัญญาอยู่แล้วเราก็ไม่ได้ติดใจ ก็ไม่มีประเด็นในตรงนี้


แต่ในส่วนของการดำเนินคดีทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็ได้กำชับคดี และให้เร่งรัดคดีจับกุมผู้ก่อเหตุอย่างรวดเร็ว ก็สร้างความเชื่อมั่นไม่ใช่เพียงผู้เสียหาย ไปจนถึงนักลงทุนและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยังเกาะสมุย ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้อาจจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวได้ซึ่งทางภาครัฐก็ไม่นิ่งนอนใจ ซึ่งทางสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวได้ทำงานร่วมกันความมั่นใจได้ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวกล่าว


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/RAEJ1POfJtI

คุณอาจสนใจ

Related News