ระทึก! รถบรรทุกทับยาย ขณะปั่นจักรยานบนทางม้าลาย ขาหวิดขาด คนขับชี้มองไม่เห็น

วันที่ 18 สิงหาคม 2565 เวลา 08.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถหกล้อเฉี่ยวชนรถจักรยานปั่น บริเวณปากทางเข้า ถ.พุทธบูชา มุ่งหน้ามาจากทางถนนพระรามที่ 2 และภายในที่เกิดเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงชรา 1 ราย จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เหตุเกิดบริเวณปากทางขาเข้าถนน พุทธบูชา มุ่งหน้ามาทางถนน พระรามที่ 2 แขวง บางมด เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางม้าลายข้ามถนน พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงชรา 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อ น.ส. ลีลี่ วิรุณานนท์ อายุ 75 ปี มีอาการเป็นแผลเปิดขนาดใหญ่บริเวณขาด้านซ้ายและมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก นอนร้องครวญครางด้วยอาการเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมาน อาสาสมัครจึงเร่งจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้การช่วยเหลือและนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บต่อที่โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อย่างเร่งด่วนทันที และใกล้เคียงบริเวณจุดเกิดเหตุยังพบกับรถจักรยานปั่นสองล้อของผู้ได้รับบาดเจ็บในสภาพพังเสียหาย ตะกร้าหน้ารถบิดเบี้ยวกับข้าวหกหล่นเต็มพื้นถนน ถัดมาบริเวณปากทางเข้าถนน พุทธบูชา ยังพบกับรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ติดเครน หกล้อ ยี่ห้อ ISUZU ด้านหลังบรรทุกกระจกขนาดใหญ่มาด้วย จอดนิ่งสนิทอยู่ภายในบริเวณที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าวต่อมาชื่อ นาย หนึ่ง อายุประมาณ 50-55 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายหนึ่ง คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ กล่าวว่า กำลังขับรถจะไปส่งกระจกที่ในซอยพุทธบูชานี่แหละ ก็เลี้ยวเข้ามา ไม่ทันเห็นยาย พอรู้สึกเหมือนจะทับอะไรมันกึกๆๆ แล้วก็ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนเอ้าๆๆ ก็เบรค เขาก็บอกให้ถอยๆๆ ถึงได้รู้ว่าทับคน แต่เขาไม่ได้ตั้งใจ ไม่เห็นจริงๆ

ทางด้าน นายสุทัศ บัวผาง อายุ 46 ปี วินมอไซค์ กล่าวว่า ยายขี่จักรยานมาตามทางนี่แหละ แล้วรถบรรทุกก็เลี้ยวซ้ายมาเพื่อเข้าถนนพุทธบูชา  โดยขับไม่ได้เร็วนะ แต่คิดว่าน่าจะมัวมองสายไฟทางข้างบนหรือเปล่า เพราะรถมันสูง เลยไม่ได้มองข้างล่าง แล้วพอชน ล้อรถจักรยานก็ทับขาแก ช่วงบน ไม่น่าเกี่ยวกับทางม้าลายหรอก น่าจะมองไม่เห็นมากกว่าเพราะรถบรรทุกมันสูง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทางเจ้าของรถบรรทุกคันดังกล่าวแจ้งทางเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยของตัวรถให้มาประเมินความเสียหายและดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นยังไม่สรุปต้องตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบอีกครั้งและต้องรอให้ทางผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อน แล้วต้องรอผลทางการตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาล ถึงจะสรุปแล้วถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป