สังคม

แกนนำกะเหรี่ยง โพสต์ระบายทุกข์บนดอย เจอรถวิบากทำลายทางสัญจร ทำเดินทางลำบาก เสียค่าซ่อมรถบาน

โดย chutikan_o

24 ก.ค. 2565

752 views

แกนนำกะเหรี่ยง โพสต์ปัญหารถวิบากทำลายทางสัญจรมาหลาย 10 ปี ทำให้ชาวบ้านเดินทางลำบาก รถพังไว ต้องเสียค่าซ่อมรถมาก ซ้ำต้องขุดซ่อมทางเอง หวังคนขับมอเตอร์ไซค์วิบากเข้าใจ



พฤ โอโดเชา แกนนำเครือข่ายกะเหรี่ยงภาคเหนือ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กฝากถึงรถวิบากบางกลุ่ม เพื่อให้ประโยชน์แก่ชาวบ้าน และให้กลุ่มขับรถร่วมรับรู้ ในหน้าฝน ระบุข้อความว่า ไม่ใช่เราห้ามมาเยี่ยมหรือผ่านหมู่บ้าน แต่มาเยี่ยมชาวบ้านมีหลายวิธี การมาขับมอเตอร์ไซค์วิบากปั่นล้อแข่งเล่นผ่านหมู่บ้านทำทางชาวบ้านเสีย สร้างทุกข์ให้ชาวบ้าน มันโอเคกันหรือครับ



ทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรทั้งหญิงชายครอบครัว เป็นทางลัดข้ามระหว่างชุมชนหมู่บ้าน เดินทางเยี่ยมพ่อแม่ลูกหลาน ไปนาสวนดูวัวควายหาของป่ากิน ลำพังน้ำแพง อะไหล่รถเครื่องแพง ที่ชาวบ้านต้องแบกก็มากโขจะแย่อยู่แล้ว แต่มีกลุ่มขับรถมอเตอร์ไซค์วิบากบางกลุ่มชอบมาขับเล่นตามป่าเขา มีดอกยางใหญ่ รถยกสูงแรง มาขับปั่นทางให้เกิดร่องลึกอย่างแสนสนุกสนาน แต่เขาเหล่านั้นจะรู้ไหม เวลาชาวบ้านมองไปที่ต้นเสียงท่อดังสนั่นทั่วหุบเขาบ้านป่า มันทำให้ชาวบ้านทุกข์และลำบากมากขึ้น




ทุกข์ที่ขับรถตามรอยร่องลึก ทุกข์ที่เสียงดังจากการแต่งท่อเข้ามาในหมู่บ้านจนคุยกันไม่ได้ยิน จากเสียงมอเตอร์ไซค์กลบความสงบหมด ทุกข์ที่ชาวบ้านต้องหลีกทางให้พวกรถแข่งเหมือนมีอภิสิทธิ์มากกว่าชาวบ้านที่ใช้รถปกติสัญจรตามวิถีทั่วไป ทุกข์ที่ต้องยอมเพราะชาวบ้านกลัวความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ และที่ผ่านมาเคยชนหมูไก่ชาวบ้านตายมาแล้วก็ไม่มีคนรับผิดชอบ และรถเหล่านี้มีใบ พ.ร.บ.ประกันเสียหรือเปล่า



ทุกข์ที่รถมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านต้องเสียสึกหรอเร็วบ่อยมากขึ้นโดยไม่จำเป็น จากทางที่เสีย อะไหล่รถเสียหายโน่นนี่บิดเบี้ยวเบรคหักบ้างเครื่องแตกบ้าง ทุกข์กับค่าซ่อมแซมรถ ทุกข์กับการเหนื่อยมากขึ้นและเสียเวลาเดินทางมากขึ้น เพราะล้อชาวบ้านเตี้ยดอกยางเล็ก บางคันแทบไม่เหลือ ไม่ได้มีเงินแต่งรถยกสูงดอกยางใหม่




อยากขับแข่งรถวิบากก็มีสนามแข่งบนถนนให้บิดไปแข่งเล่น ทำไมต้องมาขับปั่นทางสัญจรของชาวบ้านบนป่าบนดอยให้เสียด้วย พอถนนเสียชาวบ้านก็ต้องขุดถมทางเองไม่เห็นคนขับมอเตอร์ไซค์วิบากคนไหนมาช่วยขุดซ่อมทางเลย



ลำพังชาวบ้านใช้ถนนหนทางกันเองก็แย่พออยู่แล้ว หวังว่าเพื่อนๆ ที่ชอบบิดมอเตอร์ไซค์จะเข้าใจนะครับ เพราะเห็นสภาพอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว ช่วงบ้านหนองมนฑา บ้านขุนวิน แม่ ต.แม่วิน อ.แม่วาง - บ้านแม่ลานป่าคา ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง และ ต.บ่อแก้วแม่โต๋ แม่ขะปู ต.บ่อแก้ว - แม่ลานป่าคา ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่




ถึงอีกกลุ่มที่ใช้รถยนต์ดอกยางใหญ่ๆ ท่านรู้ไหมความจริงถนนทางดินแดงรุกรังถ้าชาวบ้านใช้ดอกยางเล็กๆ ทางจะไม่เสียเร็วท่านอาจเคยเห็นป้ายชาวบ้านว่าห้ามใส่โซ่พันล้อ เพราะโซ่กับดอกยางรถใหญ่เวลาขับจะตะกุยหน้าดินให้เกิดรอยตะปุตะป่ำหินดินทรายกระเด็นออกมาเป็นโคลนเกิดร่องลึกเร็วขึ้น



หินรุกรังที่เทบดอัดกับถนนดินจะถูกตะกุยออกมา เวลาน้ำฝนมาจะพัดเอาหินก้อนกรวดจากหน้าผิวถนนที่แน่นหนั่นออกไป ทำให้เกิดร่องลึกเร็วจากนั้นรถธรรมดาของชาวบ้านจะเดินทางสัญจรใช้ถนนเส้นนี้แทบจะไม่ได้อีก จะเหลือแต่รถโฟวิลล้อดอกวิบากใหญ่ๆ ใช้กัน พอรถเหล่านี้ติดทางจะเละเทะมากกว่าชาวบ้านจะขุดซ่อมด้วยมือนั้นหนักมาก แต่ถ้าใช้ล้อรถปกติแบบที่ชาวบ้านใช้กันตามวิถีทั่วไป ร่องก็ไม่ลึกการขุดซ่อมแซมถมดินด้วยมือก็ง่ายเบาหน่อย



ชาวบ้านจะนำดอกยางรถลายเรียบเล็กมาใช้ เพราะรอยรถจะคอยกลบเหยียบให้หน้าผิวถนนแน่นให้ขึ้น แบบนี้ดีกว่า โดยไม่ค่อยตะกุยดินออกมาซึ่งถือว่าเหมาะกับทางดินรุกรังดินแดนกว่าครับ



จริงๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับชุมชนบนดอยแทบทุกพื้นที่ครับที่มีมอเตอร์ไซค์วิบากผ่านแต่ชาวบ้านไม่รู้ ได้แต่ยิ้มให้ ไม่รู้จะบอกเขาอย่างไรแค่นั้นเอง หากใช้คำเลยเถิดประการใดขออภัยด้วยครับ




คุณอาจสนใจ