'บิ๊กเต่า' นำทีมสอบ 'ไร่ภูนับดาว' ขยายผลหลังพบอีก 600 ไร่ ต้องสงสัยออก ส.ป.ก. มิชอบ เร่งสาวไส้ทั้งขบวนการ

ความคืบหน้ากรณีไร่ภูนับดาว บ่ายวันนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานเเก้ว นำทีมตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ท. เข้าไปตรวจสอบที่นั่นอีกครั้ง หลังพบเบาะเเส มีกลุ่มข้าราชการเเละอดีตข้าราชการบางคน อาจมีส่วนรู้เห็นกับการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ให้กับนอมินีเเละกลุ่มนายทุน ทั้งที่บริเวณนี้เคยเป็นเเปลงสวนป่า เเละศาลจังหวัดสระบุรี ก็เคยมีคำพิพากษาในคดีบุกรุกป่ามาเเล้วตั้งเเต่ปี 2560 นอกจาก"ไร่ภูนับดาว" คณะตรวจสอบยังพบพื้นที่อีกกว่า 600 ไร่ ที่เข้าข่ายต้องสงสัยในกระบวนการออกใบส.ป.ก. จากนี้จะปูพรมตรวจสอบทั้งหมด พร้อมยืนยันว่านี่ไม่ใช่การเมือง เเต่เป็นเรื่องการทุริตในวงราชการ



พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานเเก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย นายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ท.เขต 1 ร่วมกันลงพื้นที่"ไร่ภูนับดาว" อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ ถูกตั้งข้อสงสัยว่า ส.ป.ก.4-01 กว่า 66 ไร่ในบริเวณ"ไร่ภูนับดาว" ออกให้หรือได้มาโดยชอบหรือไม่



ด้วยทำเลที่ตั้ง อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งเป็นเนินเขาที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบทิศทาง พื้นที่มวกเหล็ก จึงอยู่ในข่ายเฝ้าระวัง เเละถูกเพ่งจากฝ่ายตรวจสอบ กระทั่งพบว่าในปี 2565 สำนักงานปฏิรูปที่ดินฯ สระบุรี มีการออกใบรับรองสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 ให้กับราษฎรที่เป็นเกษตรกรในพื้นที่มวกเหล็กจำนวนหลายเเปลง รวมเนื้อที่หลายร้อยไร่



เเต่เมื่อตรวจดูในรายละเอียด กลับพบว่า มีผู้ที่ได้สิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก.จำนวนไม่น้อย ที่สงสัยว่าอาจไม่ใช่เกษตรกร เเละก็ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่สระบุรีด้วย จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบ ถูกตั้งข้อสงสัยทั้งในเเง่การใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ คุณสมบัติของผู้ได้สิทธิ์ โดยเฉพาะประเด็นการออกส.ป.ก.ในเขตเเปลงสวนป่า ที่น่าสนใจก็คือ ในปี 2560 ศาลจังหวัดสระบุรี ก็เคยมีคำพิพากษาในคดีบุกรุกป่า สั่งให้จำคุกเเละให้จำเลยย้ายออกจากพื้นที่ไปเเล้ว



เเต่ปรากฏว่าในปี 2565 สำนักงานปฏิรูปที่ดินฯ กลับออก ส.ป.ก.4-01 ให้กับกลุ่มบุคคลที่เคยต้องโทษในคำพิพากษา เเละต่อมาก็สละสิทธิ์ไปให้กับเอกชนรายใหญ่ เข้ามาถือครองทำประโยชน์ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว



พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เรื่องนี้มีข้าราชการเเละที่เป็นอดีตข้าราชการบางเกี่ยวข้อง ประการทุจริตฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่รัฐ เริ่มจากมีกลุ่มข้าราชการ กลุ่มนายทุนเข้ามาจับจอง เเละเมื่อตรวจย้อนกลับไปก็พบว่า มีความสนิทสนมใกล้ชิด ร่วมกันเอาที่ดินในเขตสวนป่าไปออกเอกสารส.ป.ก. พร้อมยืนยันว่า นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง เเต่เป็นเรื่องการทุริตในวงราชการ



ส่วนสภาพไร่ภูนับดาววันนี้ พบว่าไม่มีนักท่องเที่ยวเเล้ว เเละได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ติดไว้ทางเข้า ระบข้อความ ศูนย์การเรียนรู้ไร่ภูนับดาว เปิดให้บริการเฉพาะหมู่คณะ องค์กร สถาบันเกษตร สถาบันการศึกษา เเละต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน ตั้งเเต่ 11 ธันวาคมนี้เป็นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนเเปลง



นอกจากไร่ภูนับดาว คณะตรวจสอบจะขยายผลต่อเนื่องไปถึงการครอบครอบที่ส.ป.ก.ในเเปลงใกล้เคียงอีกกว่า 600 ไร่ ซึ่งพบว่าบางเเปลงออกทับพื้นที่ป่า ที่น่าสนใจก็คือ มีหลายเเปลงที่เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้สิทธิ์ ปรากฏว่า มีหลายคนที่ไม่ใช่คนพื้นที่เเละไม่ใช่เกษตรกร มีทั้งกลุ่มนักธุรกิจ ตระกูลดัง รวมถึงทายาทข้าราชการระดับสูง



เมื่อถามว่า ข้าราชการระดับสูงที่ว่า สูงเเค่ไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกสั้น ๆ ทิ้งท้ายว่า ระดับรองผู้ว่าฯ