กรมป่าไม้ โยน ส.ป.ก. ตอบปม 'ไร่ภูนับดาว' 66 ไร่ ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบหรือไม่

ความเคลื่อนไหวเเละความคืบหน้า กรณีไร่ภูนับดาว เช้าวันนี้ คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อมของวุฒิสภา เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเรื่องนี้ เเละหนึ่งในนั้นก็คือ กรมป่าไม้ โดยชุดพยัคฆ์ไพร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เคยลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับ ป.ป.ท.เเละ กอร.มน.เมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้



ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้แถลงผลการตรวจสอบที่ดินไร่ภูนับดาว พบว่าผู้นำชี้ในขณะนั้น ได้อ้างว่าครอบครองพื้นที่จำนวนมากถึง 112 ไร่ 3 งาน 68 ตารางวา โดยมีเอกสาร สปก.4-01 ในการครอบครอง 7 ฉบับ แต่ข้อเท็จจริงคือ ผู้นำชี้มีเอกสาร สปก.4-01 มาแสดงได้เพียง 2 ฉบับเท่านั้น กรมป่าไม้จึงทำเรื่องไปถึง สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก.เพื่อสอบถามว่า มีการออกเอกสารสิทธิ์ หรือเอกสารสปก.4-01 ในพื้นที่ใดบ้าง และเป็นการออกให้อย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะว่าพื้นที่ส่วนหนึ่งของภูนับดาวจำนวน 66 ไร่ เป็นพื้นที่ที่เคยถูกจับกุมและดำเนินคดีเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้มาเเล้ว



นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะโฆษกกรมป่าไม้ พร้อมด้วยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจสอบที่ดินไร่ภูนับดาว อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี



รองอธิบดีกรมป่าไม้ ระบุว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า นายวันชัย ฉิมพลี ผู้นำชี้พื้นที่ภูนับดาว อ้างว่า สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือส.ป.ก.ได้ออก สปก.4-01 ในการครอบครองจำนวน 7 ฉบับ แต่ผู้นำชี้สามารถนำสปก.4-01 มาแสดงได้เพียง 2 ฉบับเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 5 ฉบับ จะส่งเอกสารมาให้ตรวจสอบภายหลัง



กรมป่าไม้ จึงทำเรื่องสอบถามไปยัง ส.ป.ก.เพื่อพิสูจน์จ้อเท็จจริงว่าได้ออก ส.ป.ก.4-01 ทั้ง 7 ฉบับจริงหรือไม่ ออกในพื้นที่ใดบ้าง รวมทั้งจะขอตรวจสอบผู้ครอบครองด้วย แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับเอกสารจาก ส.ป.ก.



แต่สิ่งหนึ่งที่กรมป่าไม้ ยืนยันได้ว่าพื้นที่ของไร่ภูนับดาว อาจเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ เนื่องจากการโอนพื้นที่สวนป่าปางหัวช้าง-คลองไทร จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชมายังกรมป่าไม้ในขณะนั้น มีการโอนคดีบุกรุกป่าไม้ของกรมอุทยานฯ มาให้กรมป่าไม้ดำเนินการต่อด้วยซึ่งมีอยู่จำนวน 11 คดี และพบว่ามี 1 คดีเป็นคดีอาญาที่ 13 / 2552 พบพิกัดว่าพื้นที่ ที่เป็นไร่ภูนับดาวในปัจจุบัน จำนวน 66 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่ป่า และศาลได้ตัดสินไปแล้ว แต่ภายหลังกลับมาพบว่าพื้นที่ที่เคยมีการดำเนินคดี กลายมาเป็นพื้นที่ไร่ภูนับดาว ที่มีการออกเอกสารครอบครอง สปก.4-01 ในปัจจุบัน



เพื่อความชัดเจนกรมป่าไม้ จะรอการตอบคำถามจาก ส.ป.ก.ว่ามีการออกเอกสารสปก.4-01 ในพื้นที่ใดบ้างและออกอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากบันทึกหลักการปฏิรูปที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่มีการทำไว้มีการระบุหลักเกณฑ์ไว้ชัดเจน 5 ข้อ เกี่ยวกับการคงพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธาร ภูเขาสูงหรือป่าดงดิบให้รักษาไว้ ไม่สามารถออกสปก.4-01 แต่ไร่ภูนับดาวถือเป็นป่าต้นน้ำลำธารอย่างชัดเจน แต่ทำไมถึงมีการออกสปก.4-01



รองอธิบดีกรมป่าไม้ ระบุเพิ่มเติมว่า ความเป็นมาของพื้นที่บริเวณนี้

คือก่อนหน้านี้เป็นพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติ ปี 2521-2524 มีการเข้าไปปลูกป่าเป็นพื้นที่สวนป่าปางหัวช้าง-คลองไทร ต่อมาปี 2525 มีการเพิกถอนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้ทางส.ป.ก.นำไปปฏิรูป



ต่อมา ปี 2558 พบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่า ปี 2546-2558 พื้นที่ตรงนี้ กรมอุทยานฯดูแลอยู่ในฐานะสวนป่า / ปี 2558 ก็ได้ส่งมอบสวนนี้ให้กับกรมป่าไม้



ส่วนความเคลื่อนไหวจากฝ่ายต่าง ๆ มีรายงานว่า พรุ่งนี้ 12 ธันวาคม นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะตรวจสอบฯ จะลงพื้นที่ไร่ภูนับดาว ร่วมกับ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานเเก้ว เเละตามด้วยคณะกรรมาธิการ/การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร จะลงพื้นที่ตรวจสอบต่อเนื่องในวันถัดไป คือศุกร์ 13 ธันวาคม