นักกิจกรรมชุดมลายู ประกาศพร้อมสู้คดี ไม่หลบหนี เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริง

อัยการจังหวัดปัตตานี ขอเลื่อนสั่งฟ้องคดีชุดมลายูอีกครั้ง หลังนัดไว้เดิมในวันนี้ ขณะที่นักกิจกรรมแสดงตัวพร้อมสู้คดี ไม่หนี พร้อมตั้งคำถามกลับมีเบื้องหลังการเลื่อน เพราะกลัวถูกเทียบกับคดีตากใบหรือไม่ โดยทางอัยการชี้แจงว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุด ต้องการตรวจสอบสำนวนอย่างรอบคอบ โดยทนายความ ยืนยันคดีนี้ ผู้ต้องหาต้องการพิสูจน์ข่อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม


นักกิจกรรม 9 คนที่ถูกดำเนินคดีชุดมลายู หรือคดีที่ตำรวจ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี แจ้งดำเนินคดีข้อหายุยง ปลุกปั่น ตามมาตรา 116 จากกรณีจัดกิจรรมแต่งกายชุดมลายู ในวันฮารีรายอ ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อปี 2565 ซึ่งอัยการจังหวัดปัตตานี ได้นัดเพื่อพิจารณาส่งฟ้องศาลจังหวัดปัตตานี ในวันนี้ 29 ตุลาคม จากที่ทางฝ่ายนักกิจกรรมขอเลื่อนมาจากครั้งก่อน เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567


นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม เปิดเผยว่า คดีนี้อัยการจังหวัดปัตตานีได้แจ้งมาเมื่อวานนี้ 28 ตุลาคม ว่าขอเลื่อนเนื่องจากทางอัยการสูงสุด จะขอนำสำนวนไปพิจารณาคดีอย่างรอบคอบ จึงขอเลื่อนไป 21 พ.ย.67 เป็นการขอเลื่อนจากทางอัยการไม่ใช่จากผู้ต้องหา ซึ่งได้เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้คดี และได้ยื่นพยานหลักฐานไปครบถ้วนแล้วว่า


การจัดกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนมีโอกาสได้แต่งกายตามอัตลักษณ์ เป็นกิจกรรมที่สนุก ไม่ได้มีเป้าหมาย สร้างความกระด้างกระเดื่องไม่มีเป้าหมายอย่างนัั้น แต่ที่ปรากฏธงบีอาร์เอ็นในงาน และเป็นเหตุให้ตำรวจนำมาดำเนินคดีนั้น ได้ยืนยันไปแล้วว่าอยู่เหนือการควบคุม เพราะหยุดไป 2 ปี จึงมีคนมามาก ไม่มีเจตนาที่จะสร้างความกังวลให้กับฝ่ายความมั่นคง


นายมูฮัมหมัด อลาดี เด็งนิ หนึ่งในนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดี กล่าวว่า ทุกคนพร้อมตั้งแต่ที่ทางอัยการนัดไว้แล้ว ไม่คิดหนี และเตรียมหลักทรัพย์การประกันตัวไว้ครยแล้ว ในเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่คิดว่าทางอัยการจะเลื่อนนัด ซึ่งไม่อยากให้มีเหตุผลเหมือนถูกตั้งคำถามว่า เพราะไม่อยากให้เปรียบเทียบกับคดีตากใบ ที่เจ้าหน้าที่รัฐหนีคดีหรือไม่


ก่อนเดินทางไปสำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ทนายความและนักกิจกรรมทั้ง 9 คน ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมว่า แม้วันนี้อัยการจังหวัดปัตตานีจะเลื่อนนัด แต่ต้องการมาแสดงตัวว่าไม่คิดหลบหนี แม้ครั้งที่ผ่านมาจะเป็นฝ่ายขอเลื่อน เนื่องจากนายสอบูรี สาอิ ประธานชมรมอนุรักษ์วันธรรมวรรณกรรมมลายู ไม่สบายอยู่ระหว่างการตรวจรักษาจึง แต่ครั้งนี้พร้อมมาตามนัด เมื่ออัยการขอเลื่อน ก็ขอให้เป็นเหตุผลที่เป็นธรรม ไม่ใช่ไม่อยากเปรียบเทียบกับคดีตากใบ


ขณะที่นายอายุบ เจ๊ะนะ ผู้อำนวยการสมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ กล่าวด้วยว่า การที่ศาลขอเลื่อนไปเรื่อยๆ ก็มีความเสียหายที่จะกระทบกับการวางแผนทำงานล่วงหน้า รวมถึงเรื่องส่วนตัวที่ทุกคนมีงานที่อาจได้รับผลกระทบ ซึ่งส่วนตัวนายอายุบ ติดงานที่ต้องเดินทางไปกับคณะกรรมาธิการสันติภาพฯ จึงได้แจ้งทางอัยการว่าไม่สะดวกมาในวันที่ 21 พ.ย.ทางอัยการจึงเลื่อนไปวันที่ 26 พ.ย.67 แทน


นายอานัส พงศ์ประเสริฐ ประธาน The Looker กล่าวว่า กิจกรรมนี้มีการนัดหมายกันแต่เดิมแล้ว แต่เพิ่งได้รับแจ้งให้เลื่อนไปก่อน ซึ่งทำให้ตั้งคำถามว่ากลัวกระแสเรื่องคดีตากใบ ที่เจ้าหน้าที่รัฐหนีคดีหรือไม่ ในส่วนประชาชนจึงต้องมายืนยันว่า ไม่คิดหนี และไม่หนีตั้งแต่ต้น ทุกคนพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยก่อนหน้านี้ได้มีการระดมทุนประกันตัวผ่านกองทุนยุติธรรม ในการประกันตัวทุกคน ได้แล้วกว่า 1 ล้านบาท เป็นเงินจากประชาชนคนละเล็กละน้อย และหากคดีนี้ในที่สุดอัยการส่งยกฟ้อง ก็จะได้ใช้เป็นกองทุนในการต่อสูคดีอื่นต่อไป เพราะยังมีคดีที่ถูกฟ้องปิดปากอีกหลายคดี


สำหรับกิจกรรมวันนี้มีการชูป้ายเป็นสัญลักษณ์ เช่น #เราไม่หนี #คดีชุดมลายู #เป็นมลายูไม่ผิด #Antislapp #WeareMelayu #เสรีภาพในการแสดงออก รวมถึงการร้องเพลงยืนยันถึงเจตจำนงในการจัดกิจกรรมชุดมลายู เพื่อแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ต่อการสร้างสันติภาพในพื้นที่จังหวัดช่วแดนภาคใต้ ซึ่งทนายความและนักกิจกรรมทุกคนยังคาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ รวมถึงเรียกร้องไปถึงการใช้กฏหมายปิดปากกับนักกิจกรรมอื่นๆด้วย