สังคม

ผบช.นรต.สั่งสอบอาจารย์พิเศษ ปมชู้สาว-ฉ้อโกง ยันเป็นสถานที่ผลิตตร. ไม่ใช่ผลิตโจร

โดย panwilai_c

26 ต.ค. 2567

69 views

โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สั่งตรวจสอบตรวจสอบทุกประเด็นเกี่ยวกับบุคลากร สวมเครื่องแบบ หรือประพฤติกรรมไม่เหมาะสมทางชู้สาว เนื่องจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นสถานที่ผลิตตำรวจต้นแบบ ไม่ใช่ผลิตโจร



พลตำรวจตรี ศักดิ์รพี เพรียวพานิช รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ระบุว่าขณะนี้ทาง พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวมกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้สั่งการให้ การตั้งชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเกี่ยวกับบุคลากรของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาญา และมีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในหลายประเด็น



โดยเฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้ให้คณบดีคณะตำรวจศาสตร์เป็นผู้ตรวจสอบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นอาจารย์จริงหรือไม่ และยังสอนอยู่หรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลา และต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง และผู้หญิงคนดังกล่าวมีการจดทะเบียนสมรสกับบุคลากรของโรงเรียนจริงหรือไม่ และหากพบการกระทำผิดจริง จึงจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป



ส่วนกรณีที่ฝ่ายหญิงมีการแต่งกายเครื่องแบบชุดตำรวจ ก็ต้องมีการตรวจสอบว่า ในเมื่อไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจแล้วไปแต่งชุดตำรวจเพราะอะไร เนื่องจากเป็นเครื่องแบบข้าราชการ ต้องตอบข้อสงสัยของสังคมให้ได้



ส่วนสามีของหญิงรายนี้ ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกัน ถ้ารู้ว่าเกิดเป็นความเสียหายก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพราะมีการไปนำเสนอข่าวออกสื่อว่าเป็นบุคลากรของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นผู้ผลิตบุคคลต้นแบบ ที่มีหน้าที่เป็นโรงเรียนผลิตคนไปจับโจร ผลิตคนต้นแบบ ไม่ใช่ผลิตคนไปเป็นโจร



ส่วนกรณีที่บุคลากรของโรงเรียนไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงอื่น ที่ไม่ใช่ภรรยาจะมีความผิดหนักกว่าประชาชนทั่วไปหรือไม่นั้น ยอมรับว่ามันเป็นความเสียหายอยู่แล้ว และผิดจรรยาบรรณ การเป็นอาจารย์ต้องเป็นต้นแบบ ซึ่งจะเป็นความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ตรงนั้นจะเป็นผลการดำเนินการขั้นตอนต่อไป



ขณะที่ การสอบปากคำ ภรรยาของบิ๊กตำรวจ ซึ่งถูกแจ้งความข้อหาลักทรัพย์เป็นทองคำ 120 กว่ากิโลกรัม ให้การว่า ไม่ได้บุกรุก โดยรู้จักกับผู้เสียหายมานานแล้ว และเช่าห้องพักในคอนโดมิเนียมดังกล่าวเดือนละ 10,000 บาท ส่วนทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋า เป็นเพียงเครื่องจักสาน ไม่มีเงินตามที่สังคมตั้งข้อสงสัย



ส่วนที่มีการกล่าวอ้างถึงทองคำ 120 บาทเป็นการรับจำนำจากสามีของผู้เสียหาย เนื่องจาก สามีของผู้เสียหายมีปัญหาทางการเงิน และเคยมาขอยืมเงินบ่อยครั้ง

โดยการเดินทางมาให้ปากคำ ของภรรยาบิ๊กตำรวจ ทางบิ๊กตำรวจซึ่งเป็นสามี ได้ประสานกับผู้กำกับการ สน.พระโขนงมาก่อน และได้ให้คนสนิทมาร่วมรับฟังด้วย



สำหรับแนวทางการสืบสวน ตำรวจพบข้อมูลว่า คดีลักทรัพย์และบุกรุกฯ ไม่ใช่ประเด็นหลัก ที่ทางกลุ่มผู้ต้องหาต้องการเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ต้องการให้เรื่องจบ เพื่อไม่ให้สาวไปถึงทรัพย์สินในถุงกระสอบสายรุ้ง 5 ถุง เพราะก่อนหน้านี้ ทางลูกน้องของสามีผู้ต้องหา เคยให้ปากคำและสัมภาษณ์ว่า ทางสามีของผู้ต้องหาเคยนำเงิน และทองคำไปเก็บไว้ในกระสอบ ทำให้ ต้องมีการตรวจสอบหาเจ้าของทรัพย์สินว่าเป็นของใคร หากพบว่าเป็นของข้าราชการ ก็จะเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ และไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้



ส่วนคู่กรณี ของ"ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ" ปี 2550 ข้อหาฉ้อโกง สภ.ประตูน้ำจุฬากรณ์ ซึ่งมีการไกล่เกลี่ยจากเงินไป 1 แสนบาทแล้ว

ปี 2566 ข้อหาฉ้อโกง สภ.สามพราน

ปี 2566 ข้อหาฉ้อโกง สภ.สังขละบุรี

ปี 2567 ข้อหาทำร้ายร่างกาย สภ.ทองผาภูมิ

คุณอาจสนใจ

Related News