ตร. เตรียมออกหมายเรียกชายต้องสงสัยหลอกเงินเจ้าอาวาส จนผูกคอมรณภาพ

ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะออกหมายเรียกเชิญชายคนหนึ่ง ซึ่งตำรวจสงสัยว่า เป็นผู้เข้าไปหลอกเจ้าอาวาส วัดแห่งหนึ่งอำเภอเสนา ว่าจะเป็นเจ้าภาพกฐินให้ แต่ขอให้เจ้าอาวาสหาเงินมาให้ก่อน 7 แสนบาท เพื่อใช้เตรียมงาน ทำให้เจ้าอาวาสใช้เงินส่วนตัว และยืมญาติใกล้ชิดมาให้ก่อน แต่เมื่อใกล้ถึงวันทอดกฐิน กลับติดต่อไม่ได้ ทำให้เจ้าอาวาสตัดสินใจผูกคอ จนมรณภาพ


เมื่อเช้านี้ ชาวบ้านไปร่างพระครูวรวัตน์ เขมากร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์บน ตำบลกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้ประคตคาดเอว ผูกคอตัวเองจนมรณภาพ ภายในสถานปฎิบัติธรรม ที่เจ้าอาวาสใช้เป็นกุฏิจำวัดด้วย ตำรวจไปตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย สันนิษฐานว่ามรณภาพมาก่อนหน้านี้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง


ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือการรื้อค้น แต่พบเอกสารต่าง ๆ และพบกระดาษขนาด A4 พับครึ่ง เขียนข้อความด้วยลายมือ ระะบุว่า "เล็ก กิมสวัสดิ์ โจรในเครื่อง นักบุญ จองกฐินแล้วโกงเงิน พระครูวรวัตน์ เขมากร 650,000 บาท โดยหลอกให้เจ้าอาวาสกู้ยืมเงินคนอื่น อ้างว่าจะนำไปให้ในวันที่เก็บเงินขายหวย เพราะอ้างว่าเอาไปลงทุน ขายลอตเตอรี่ ทำให้เจ้าอาวาสหลงเชื่อ จึงไปกู้ยืมเงินมาให้ แต่เมื่อถึงเวลา นายเล็ก ผลัดเรื่อยมา ตั้งแต่กันยายน และหลังสุดก็ตั้งแต่ วันที่ 1 ถึง 15 ตุลาคม ก็ไม่นำมาให้ ทำให้เจ้าอาวาสเหลือทน จนต้องทำสิ่งที่ไม่คาดคิด" จากนั้น ก็ลงชื่อเจ้าอาวาส และเบอร์โทรนายเล็ก


พี่ชายเจ้าอาวาส เผยว่า เจ้าอาวาสเครียด เพราะถูกนายเล็ก ซึ่งมาจากสุพรรณบุรีมาหลอก อ้างว่าเป็นเจ้ามือหวย และอ้างว่าจะเป็นเจ้าภาพใหญ่ ในงานทอดกฐิน สามัคคีของวัด ซึ่งมีกำหนดทอดกฐินในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ แต่เมื่อใกล้ถึงวันงานพยายามติดต่อนายเล็กหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นสาเหตุให้คิดสั้นอย่างแน่นอน ซึ่งเงินที่หลอกให้เจ้าอาวาสโอนไปให้ รวมแล้วเกือบ 7 แสนบาท ซึ่งเงินทั้งหมดไม่ใช่เงินของวัด แต่เป็นเงินที่เจ้าอาวาสเก็บหอมรอมริบ อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ ขอยืมมาจากลูกหลาน เพื่อมาเตรียมใช้ในงานกฐินปีนี้


พลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เสนา เร่งคลี่คลายคดี เพราะถือเป็นคดีที่มีผลกระทบกับ ความมั่นคงทางศาสนา เบื้องต้นตำรวจได้ภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยแล้ว พร้อมเรียกญาติเจ้าอาวาสมาให้ปากคำ เพื่อติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดีแล้ว


ส่วนบรรยากาศภายในวัด พบว่าพระและลูกศิษย์ รวมถึงญาติพี่น้องเจ้าอาวาส ได้เตรียมสถานที่ พิธีบำเพ็ญกุศลให้เจ้าอาวาส และบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เสียใจของชาวบ้าน เนื่องจากเจ้าอาวาสเป็นพระนักพัฒนา ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูได้ไม่ถึงสองเดือน


ล่าสุดพลตำรวจตรีโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยภาพชายต้องสงสัยคนดังกล่าว ในกลุ่มสื่อมวลชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งบุคคลดังกล่าว เป็นบุคคลที่มีชื่อ นามสกุล ตามที่พระเจ้าอาวาสระบุไว้ในจดหมาย เบื้องต้นพบว่าเคยมีคดีฉ้อโกง 2 คดี เบื้องต้น พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกเชิญ ตัวมาให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าว


ข่าว 3 มิติ ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า บุคคลชื่อเล็ก ตามที่ระบุในจดหมายของเจ้าอาวาส เป็นคนเดียวกันกับที่เคยไปหลอกเงิน ชาวบ้านในจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อปีก่อน โดยขณะนั้นใช้ชื่อว่า "แดง" ได้หลอกชาวบ้านว่า จะนำเงินไปทอดกฐินที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ขณะนั้นได้พิมพ์ซองฏีกา แล้วไปเรี่ยไรเงิน ได้เงินไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท แต่ชาวบ้านเดินทางไปสอบถามที่วัดเรื่องการทำบุญ จึงทราบว่านายเล็ก หรือแดง ที่หลอกเรี่ยไรเงินไปไม่ได้นำเงินไปทอดถวายที่วัดดังกล่าวแต่อย่างใด


นอกจากนี้ ยังได้เบาะแสว่าชายคนดังกล่าว มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเมือง สุพรรณบุรี แต่มักไปตระเวนก่อเหตุทั้งเรี่ยไรเงิน หลอกพระ และแอบอ้างชื่อวัดหลายแห่ง มีวัดที่เสียหาย ทั้งถูกหลอกและถูกแอบอ้าง ในเขตอำเภอโพธ์ทอง /อำเภอวิเศษไชยชาญ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง รวมถึงบางพื้นที่ของจังหวัดสุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา