18 ธ.ค. ศาลนัดตัดสิน 'เอกราช ช่างเหลา' คดีทุจริตเงินสหกรณ์ครู 431 ล้าน

วันนี้ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีทุจริตยักยอกทรัพย์สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น มูลค่ากว่า 431 ล้านบาท ซึ่งอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เป็นจำเลยในคดีนี้ โดยได้ใช้เวลาในห้องพิจารณาคดีกว่า 3 ชั่งโมง นายเอกราช ช่างเหลา ได้ขอปฏิเสธคดีอาญาและกลับคำให้การ โดยรับในส่วนของคดีแพ่ง แต่ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากก่อนหน้านี้จำเลยได้ยืนยันรับสารภาพไปแล้ว และมีการจ่ายเงินชดใช้ตั้งแต่ปี 2565-2566 ซึ่งศาลพิจารณาแล้วจึงไม่มีเหตุอันควรในการต่อสู้คดีอาญา ก่อนที่นายเอกราช ช่างเหลาจะเดินทางกลับทันที



ขณะที่นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังออกจากห้องพิจารณาคดีว่า ในวันนี้ศาลจังหวัดขอนแก่นได้นัดฟังคำพิพากษา แต่จำเลยได้ยื่นคำให้การขอปฏิเสธคดีอาญา จากรับสารภาพเพื่อสู้คดี กรณีเมื่อครั้งเป็นผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้กระทำการทุจริตยักยอกเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา จนทำให้สหกรณ์มียอดเงินขาดบัญชีตั้งแต่ปี 2554 – 2562 เป็นเงินกว่า 431 ล้านบาท และเพื่อเป็นการปิดบังอำพรางการกระทำความผิดของตนเอง ยังได้ปลอมแปลงรายการในเอกสารสมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากประจำของสหกรณ์ และจัดทำหรือรับรองรายงานสถานะทางการเงินเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีอันเป็นความเท็จ เพื่อให้สหกรณ์และละสมาชิกหลงเชื่อว่าสหกรณ์มียอดเงินคงเหลือ ตามที่ระบุในเอกสารดังกล่าวจริง



เป็นการกระทำต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 จนถึงเดือนสิ่งหาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับแล้ว และนายเอกราชช่างเหลา ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562 ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาต เพราะมีการรับสารภาพมาแล้ว และมีการจ่ายเงินมาตั้งแต่ปี 2565-2566 และจำเลยได้รับสารภาพยืนยันมาแล้ว โดยศาลได้ถามเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 ว่า จำเลยยังยืนรับสารภาพหรือไม่ ซึ่งจำเลยได้ยืนยันที่จะรับสารภาพ จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะมาต่อสู้ในคดีอาญาเพราะสารภาพแล้ว จึงได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 18 ธันวาคมปีนี้ เวลา 9.00 น.



ในศาลจำเลยได้อ้างถึง กรณีจะขายที่ดินเพื่อนำเงินมาชดใช้ให้กับสหกรณ์ โดยหลักฐานของจำเลยที่นำมาในชั้นศาล กรณีที่มีคนมาติดต่อขอซื้อที่ดินในราคา 300 ล้านบาท ซึ่งการขายที่ดินของ ป.ป.ง. เป็นเพียงข้ออ้างของจำเลยที่ จะหาเงินมาให้สหกรณ์เท่านั้น