กทม.สั่งระงับโครงการ 7 วัน หาสาเหตุเครนถล่ม กำชับทุกไซต์เข้มความปลอดภัย

วันนี้ยังมีอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างติดต่อกัน หลังสลิงเครนยกรถขาดลงมาทับคนงาน เสียชีวิต ในโรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนความคืบหน้าเหตุเครนถล่มทับคนงานในพื้นที่ก่อสร้าง บ่อขยะมูลฝอยอ่อนนุช ล่าสุด กรุงเทพมหานครได้สั่งระงับการก่อสร้างทั้งหมด เป็นเวลา 7 วัน เพื่อตรวจสอบสาเหตุและความปลอดภัย



เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยแพทย์เวร และกู้ภัยฯ ได้รับแจ้งเหตุสลิงเครนขาด ทำให้หล่นทับคนงานเสียชีวิต ในโกดังที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง



โดย ผู้เสียชีวิต คือ นายฉัตรดนัย อายุ 19 ปี ชาว จังหวัดมหาสารคาม มีบาดแผลที่ศีรษะ และต้นขาซ้าย ใกล้กันพบรถบูมสีส้ม และ รถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียนสมุทรปราการ จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ



นายธวัชชัย คนขับรถสิบล้อ บรรทุกรถบูม เล่า ว่าระหว่างใช้เครนยกรถบูมลง เกิดเหตุสลิงที่เป็นตัวยึดสำหรับการยกขาด ขณะยกรถบูมลอยขึ้นจากท้ายรถบรรทุกลงมาทับร่างผู้เสียชีวิต



เบื้องต้นตำรวจ ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบปากคำเพื่อนร่วมงาน หลังแพทย์ยืนยันการเสียชีวิต และมอบร่างให้กู้ภัยฯ นำส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์สมุทรปราการ พร้อมเชิญตัวคนขับรถบรรทุกไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บางเสาธง



ส่วนความคืบหน้า เหตุเครนล้มในพื้นที่ก่อสร้างโครงการกำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุช ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 4 เมื่อวานนี้



ล่าสุดกรุงเทพมหานครได้สั่งระงับการก่อสร้างในโครงการทั้งหมดเป็นเวลา 7 วัน เพื่อหาสาเหตุและตรวจสอบความปลอดภัย โดยมีวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยเข้าไปกำกับดูแล



นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า แม้เหตุที่เกิดขึ้นจะเป็นพื้นที่ในโครงการก่อสร้างซึ่งเป็นสถานที่ปิดไม่กระทบกับประชาชนจำนวนมาก แต่ก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบสาเหตุและข้อบกพร่องจากการก่อสร้างอย่างละเอียดอีกครั้ง



นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการก่อสร้างเข้มงวดเรื่องมาตรการความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่จะเกิดผลกระทบต่อสาธารณชน เช่น สะพานยกระดับ ท่อลอดอุโมงค์ต่างๆ ส่วนการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบเหตุ จะเป็นไปตามที่ทางบริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด ได้ทำประกันอุบัติเหตุไว้ ซึ่งทาง กทม.จะเร่งรัดการดำเนินการนี้อย่างเต็มที่