สังคม

เปิดเบื้องหลังแผนลักเรือน้ำมันหนี ลูกเรือให้การสาวถึงตัวการ โยงผู้จัดการ 'เสี่ยโจ้' วางแผน-ดูแลเงิน

โดย panwilai_c

19 มิ.ย. 2567

187 views

ความคืบหน้า คดีตรวจยึดเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 5 ลำ ซึ่งคดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ บก.ปอศ. การตรวจสอบ พบเป็นเรือเถื่อน 2 ลำ ไม่มีสัญชาติและเจ้าของเรือ ส่วนกรณีปรากฏข้อความการสนทนาในแอปพลิเคชันไลน์ ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกเห็นเเล้ว เเละเชื่อว่าข้อความสนทนาระหว่าง เสี่ยโจ้ ปัตตานี กับ ผกก. อักษรย่อ น เป็นของจริง เตรียมเรียกเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริงเเล้ว



นี่คือข้อความในแชตไลน์ของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Woraek29 ซึ่งการสืบสวนของตำรวจเชื่อว่า เป็นไลน์ของนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ เสี่ยโจ้ ปัตตานี คุยกับตำรวจระดับผู้กำกับการคนหนึ่ง อักษรย่อ "น." เป็นแชทการสนทนาตั้งแต่ก่อนเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะถูกจับ



โดยตำรวจอักษรย่อ "น." ได้ติดต่อมาแนะนำตัวกับเสี่ยโจ้ว่า เป็นผู้มารับไม้ต่อจากตำรวจอีกนาย อักษรย่อ "ส." โดยบอกว่า รอง "ญ." ให้มาสอบถามเรื่องของส่วนที่ต้องรับผิดชอบ และว่าง ๆ ให้บอกผู้กำกับ "น." ว่าใครรับของ ส่งของเพราะรอง "ญ." บอกว่าของไม่มา



จากนั้นก็มีแชตสนทนาของบุคคลที่เชื่อว่าเป็นเสี่ยโจ้ กับตำรวจนายเดิมอีกครั้ง หลังจากเรือทั้ง 5 ลำ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตั้งแต่คุยไลน์กับพี่ น. ครั้งสุดท้าย ก็ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับพี่อีกเลย ตำรวจตอบกลับว่า นานจนลืมไปแล้ว จากนั้นเสี่ยโจ้ก็ถามว่า ผมมีความผิดอะไร ถึงต้องทำแบบนี้



ตำรวจนายดังกล่าว ตอบกลับไปว่า ได้รับคำสั่งจากผู้ใหญ่มา เสี่ยโจ้บอกว่า ทางพี่ชายผม พี่หนุ่มก็นอยด์กับพี่อยู่นะครับ เรือ 2 ลำนั้น เขาก็ดูแลรายการผ่านพี่ไม่ใช่เหรอ จับเขาเข้ามา เขาก็เสียใจมากครับพี่ ซึ่งตำรวจก็ตอบกลับไปว่า เขาก็ตัวเล็กมากๆ ต้องทำตามคำสั่ง ต้องเข้าใจนะครับ



หลังจากนั้นก็พูดคุยกันอีกหลายข้อความ ช่วงท้าย ๆ เสี่ยโจ้ส่งข้อความในทำนองว่า "พวกเราคนเพชรด้วยกัน มีสายเลือดที่พ่อแม่สอนกันมา ต้องจริงใจ" ตำรวจตอบกลับไปว่า ผู้บังคับบัญชาก็คนเพชร จนเสี่ยโจ้ ต้องถามกลับไปว่าควรทำยังไงต่อ ซึ่งตำรวจก็แนะนำให้สู้คดีไปก่อน



พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่า เห็นแชตแล้ว เชื่อว่าน่าจะเป็นของจริง แต่รายละเอียดต่างๆ ขอตรวจสอบก่อน โดยจะมีการประชุมหารือกับฝ่ายสืบสวน หากมีความชัดเจนแล้ว ก็จะเรียกผู้กำกับ น. มาสอบปากคำโดยเร็วที่สุด รวมถึงอาจมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และสั่งย้ายผู้กำกับ น. เข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางก่อน ยืนยันหากพบการกระทำความผิดก็จะไม่ละเว้น



ส่วนแชตไลน์พาดพิงว่า ผู้กำกับการ น. เป็นเพียงพ่อบ้าน ยังมีระดับบิ๊กตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ บอกว่าถ้ามีจริงก็อยากจะให้พยานหลักฐานถึงตัว



พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังเปิดเผยถึงคนชื่อ เล็ก โดยบอกว่าเป็นคนไทย และเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ เสี่ยโจ้ ปัตตานี ทำหน้าที่ดูแลทุกอย่าง ซึ่งวันที่จับเรือทั้ง 5 ลำ นายเล็กก็เป็นคนพยายามเข้าหาเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ช่วยเหลือ แต่ถูกปฏิเสธ และจากคำให้การของลูกเรือและไต้ก๋งเรือ รวมถึงการตรวจสอบทางเทคนิค พบว่า นายเล็กยังเป็นคนดูแลเรื่องเงิน 3 ล้าน 1 แสนบาท ที่เอามาประกันตัวลูกเรือ 28 คนด้วย คาดว่าน่าจะได้รับคำสั่งมาจากเสี่ยโจ้



คดีนี้ถือเป็นการตบหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างแรง ดังนั้นต้องดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด



ส่วนความคืบหน้าการตรวจยึดเรือน้ำมันเถื่อน 5 ลำ พันตำรวจเอก ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า คดีนี้ถือเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เพราะจุดที่จับอยู่ห่างจากเส้นฐาน 80 ไมล์ทะเล หากอยู่ในพื้นที่น่านน้ำไทยจะห่างเพียง 12 ไมล์ทะเล ดังนั้นอำนาจในการสอบสวนดำเนินคดีจะเป็นของพนักงานอัยการสูงสุด และมีตำรวจเข้าไปสอบสวนร่วมด้วย คาดว่าสำนวนจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนตามกำนดเวลา



จากการตรวจสอบเรือทั้ง 5 ลำ พบว่า มีเรือสัญชาติไทยเพียงลำเดียว คือ "เรือโชคบุญชู 91" มีเจ้าของเรือและจดทะเบีนรถูกต้อง ส่วนเรือกำไลเงินเหล็ก และเรือเจพี ถูกขายให้กับชาวมาเลเซีย จึงเพิกถอนทะเบียนเรือไป และชายชาวมาเลเซียคนนี้ออกจากไทยไปราว 5 ปีแล้ว ส่วนเรือดาวรุ่ง และซีฮอส เป็นเรือเถื่อนไม่มีทะเบียน ไม่ปรากฏชื่อว่าเป็นของใคร แต่ในทางสืบสวนรู้ตัวคนที่คาดว่าเป็นเจ้าของแล้ว



นอกจากนี้ยังพบพิรุธเพราะเจ้าหน้าที่เคยเรียกเจ้าของเรือที่มีทะเบียน รวมถึงกลุ่มคนที่คาดว่าครอบครองเรือเถื่อนมาสอบปากคำ แต่ก็ไม่มีใครมาให้ข้อมูล คาดว่ากลุ่มนี้เป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมด



ขณะที่พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ประชุมความคืบหน้าการสอบปากคำลูกเรือทั้ง 8 คน โดยบอกว่าทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเฉพาะไต้ก๋งเรือ แต่จะโยงไปถึงเสี่ยโจ้ ปัตตานีได้หรือไม่ ขอให้อยู่ในสำนวน แต่ก็มีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงอยู่บางส่วนแล้ว เชื่อว่าไม่เกินสัปดาห์หน้า จะมีความกระจ่างในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการขยายผลถึงผู้กระทำความผิด หรือผู้สั่งการให้เอาเรือของกลางหลบหนีไป น่าจะออกหมายจับได้มากกว่า 1 คน

คุณอาจสนใจ

Related News