ยังไม่สรุป สาเหตุไฟไหม้โซนสัตว์เลี้ยงจตุจักร ผู้ค้ามองควรมีระบบความปลอดภัยรัดกุมกว่านี้

ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ โซนสัตว์เลี้ยงของตลาดนัดจตุจักร โดยมีผู้ได้รับความเสียหายอย่างน้อย 118 ราย สัตว์ตายทั้งหมดมากกว่า 1,000 ตัว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันต้นเหตุของไฟในครั้งนี้ ขณะที่ผู้ค้าแสดงความกังวลถึงมาตรการ การจัดการเพลิงไหม้ที่ควรรัดกุมมากกว่านี้



เศษซากอาคารและซากสัตว์ต่างๆ เหล่านี้ คือ ความเสียหายที่หลงเหลือจากเหตุไฟไหม้ตลาดศรีสมรัตน์ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ในช่วงเกือบตี 4 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้



แต่ก็แลกมาด้วยชีวิตของสัตว์กว่า 1,000 ชีวิต ที่ไม่สามารถหนีออกจากกรงขังได้ เนื่องจากโซนนี้เป็นโซนค้าขายสัตว์เลี้ยง จำพวกปลา นก ไก่ สุนัข แมว และสัตว์แปลกหายาก



หญิงคนนี้ คือ เจ้าของร้านขายนกเจ๊หนึ่ง ซึ่งความเสียหายของเธอตอนนี้ตีเป็นมูลค่าหลักล้านบาท เธอชี้ให้ทีมข่าวดูซากนกนับร้อยที่ยังคงถูกปล่อยทิ้งไว้ ทั้งนกฟินช์ 7 สี นกโนรี นกซันคอนัว นกแก้วกรีนชีค และค็อกคาเทล โดยแต่ละตัวมีมูลค่าตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท และจนถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าจะทำสิ่งใดต่อจากนี้ เพราะร้านนี้ หลักทรัพย์เดียวที่ไว้ใช้หาเลี้ยงตัวและครอบครัวอยู่



สำนักงานเขตจตุจักรได้ตั้งจุดกองอำนวยการขึ้นที่นี่ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขต ตำรวจ สน.บางซื่อ และการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เข้ามารับเรื่องเพื่อประเมินความเสียหาย รวมผู้เสียหายทั้งหมด 118 ราย หรือ ทั้งหมดของโซนนี้



เบื้องต้นตลาดแห่งนี้ไม่ได้มีการทำประกันภัยสำหรับร้านค้า แต่ทางเจ้าของพื้นที่ก็เตรียมจัดโซนเพื่อย้ายร้านค้ากลุ่มนี้ไป ตอนนี้จึงมีเพียงเงินเยียวยาจาก กรุงเทพมหานครจำนวน 11,400 บาทเท่านั้น ส่วนสัตว์และสินค้าต่างๆ เสียหายเกือบทั้งหมด



ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสัตว์ในตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่คาดว่ามีสัตว์ตายมากกว่า 1,000 ตัว ซึ่งยังต้องรอการสำรวจ



อย่างไรก็ตามมีสัตว์บางส่วนที่รอดชีวิต ส่วนใหญ่เป็นไก่แจ้ และสัตว์เลื้อยคลานรวมกว่า 20 ตัว เจ้าหน้าที่ กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ กรมปศุสัตว์ ได้นำไปรักษาพักฟื้นแล้ว



ผู้ค้าที่ตลาดสัตว์เลี้ยง ระบุว่า ตามปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ของตลาดอยู่ประจำจุดเพื่อรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งวัน และไม่นานมานี้ทางตลาดก็ได้จัดระเบียบพื้นที่ใหม่ให้เป็นระเบียบมากขึ้น เพื่อป้องกันความหนาแน่น ส่วนที่ผ่านมาก็มีการซ้อมแผนป้องกันอัคคีภัยเป็นประจำ แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้พวกเขาเกิดความกังวล เพราะอุปกรณ์ป้องกันเพลิงส่วนใหญ่เป็นของส่วนตัวที่ถูกเก็บไว้ในร้าน จึงอยากให้มีการวางระบบให้รัดกุมมากขึ้น



เบื้องต้น ยังไม่มีการสรุปสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งล่าสุด กทม.มีคำสั่งปิดการใช้อาคาร เนื่องจากได้รับความเสียหายเชิงโครงสร้างทั้งหมด ก่อนรื้อถอนต่อไป โดยคาดว่าจะมีการสรุปความคืบหน้าการตรวจสอบสาเหตุทั้งหมดอีกครั้งในสัปดาห์นี้