สังคม
ขุดพบอีก 'บ.เอกอุทัย' ลอบฝังกากน้ำกรด ปนเปื้อนดิน-น้ำ ควันพุ่งกลิ่นเหม็นรุนแรง
โดย nut_p
30 พ.ค. 2567
241 views
วันนี้นายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการ บ.วินโพรเสส จ.ระยอง ที่เกิดเพลิงไหม้ และเชื่อมโยงกับ บ.เอกอุทัย ถูกแจ้งข้อกล่าวหาปลอมแปลงเอกสารและตราประทับบริษัทเพราะสอน เพื่อใช้ทำธุรกรรม ซึ่งนายโอภาสให้การปฎิเสธ ก่อนจะถูกนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ล่าสุดค่ำวันนี้ ตำรวจสอบสวนกลางพร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำหมายศาลเข้าค้นบริษัทเอกอุทัย สาขาสามบัณฑิต อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ยึดเอกสารจำนวนมาก และที่สำคัญคือมีการขุดเจาะบริเวณที่มีข้อมูลว่าเป็นบ่อฝังกลบกากน้ำกรด แค่เพียงเจ้าหน้าที่ตักลงไปครั้งแรก ก็พบสารเคมีทันที
กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำรถแบคโฮเข้าเจาะและตักสำรวจบนพื้นดินที่มีข้อมูลว่าถูกลักลอบฝังกลบกากสารเคมีที่เป็นน้ำกรด และเพียงแค่ตักลงครั้งแรก ก็พบสารเคมีประเภทกรด พวยพุ่งขึ้นจากดินทันที
เจ้าหน้าที่ขุดเจาะสำรวจในจุดอื่น ๆ ใกล้เคียงกัน ก็พบสารเคมีทั้งที่มีสภาพเป็นของเหลว ที่จับตัวเป็นก้อนเหนียว และที่มีสภาพเป็นฟองเพราะการเกิดปฎิกิริยาของสารเคมี พุ่งออกมาหลายพื้นที่ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ขุดเจาะ สารเคมีได้ส่งกลิ่นเหม็นฉุนแสบจมูกอย่างมาก
การขุดเจาะนี้เป็นไปตามเป้าหมายการหาพยานหลักฐาน หลังจากเมื่อปี 2564 เคยพบภาพบ้านหลังโรงงานเป็นบ่อใหญ่ แต่การตรวจสอบในปี 2566 ของอุตสาหกรรมจังหวัด ไม่พบบ่อนั้นแล้ว จึงเชื่อว่าบ่อถูกเทสารเคมีและฝังกลบเพื่อปกปิดความผิด เพราะที่นี่เป็นสำนักงานบริษัทเอกอุทัย แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ฝังกลบหรือกำจัดบำบัด กากสารเคมีที่นี่แต่อย่างใด
นอกจากในบริเวณดังกล่าวแล้ว เมื่อช่วงค่ำเจ้าหน้าที่ก็สุ่มขุดเจาะที่ดินติดกับกำแพงบริษัทเอกอุทัย มีลักษณะถูกปลูกป่าไผ่และพืชสวนไว้บนหน้าดิน การขุดเบื้องต้นพบดินปนเปื้อนมีกลิ่นสารเคมี เจ้าหน้าที่ได้นำตัวอย่างดินปนเปื้อนไปตรวจสอบแล้ว
เมื่อ 3 วันก่อนกรมควบคุมมลพิษ เพิ่งนำโดรนเข้ามาบินสำรวจการปนเปื้อนของสารเคมี รอบ ๆโรงงานเอกอุทัย ที่ปรากฏให้เห็นบนผิวดินเพื่อวางแผนสำรวจอย่างละเอียดเพิ่มเติม หลังจากพบการรั่วไหล และซึมไปถึงพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะ 3 ปีก่อน ก็เกิดปัญหาเช่นนี้มาแล้ว นอกจากนี้การสำรวจดังกล่าว ยังเตรียมการพื้นสำรวจการปนเปื้อนของน้ำใต้ดินด้วย
ขณะอีกหนึ่งปฏิบัติการที่เกิดขึ้นพร้อมกันเมื่อค่ำ โดยหมายศาลฉบับเดียวกัน ตำรวจสอบสวนกลางได้ค้นภายในสำนักงานบริษัทเอกอุทัย และใช้อำนาจตามหมายศาล ยึดอายัดเอกสารการทั้งหมดของ บ.เอกอุทัยไว้ เพื่อนำไปทำบัญชีของกลางรายงานต่อศาล แล้วจะส่งมอบเอกสารให้กรมโรงงานเพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ที่กล่าวหาบริษัทเอกอุทัยในอีกหลายคดี และตรวจสอบเพิ่มเติมว่า จะโยงใยไปถึงนายโอภาส บุญจันทร์ ที่ถูกดำเนินคดีในขณะนี้หรือไม่
วันนี้นายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการบริษัทวินโพรเสส จ.ระยอง ก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาที่ 2 ในรอบ 2 วัน หลังจากเมื่อวานนี้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองวัตถุอันตราย และฝ่าฝืน คำสั่งเจ้าพนักงาน ที่จ.ระยอง โดยได้รับการประกันตัว จากศาลจังหวัดระยอง และวันนี้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาปลอมแปลงตราประทับ ที่ บ.เพราะสอน จำกัด เป็นผู้กล่าวหา และนายโอภาสบอกสั้น ๆ ว่าไม่ได้กระทำผิดในเรื่องดังกล่าว
ที่มาของข้อกล่าวหาดังกล่าว มาจากที่นายบุญเลิศ ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท เพราะสอน และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ครอบครองวัตถุอันตราย แจ้งความเอาผิดนายโอภาส โดยกล่าวหาว่าปลอมแปลงตราประทับบริษัทเพราะสอนที่เขาเป็นกรรมการอยู่ และนำเอกสารที่ปลอมแปลงนั้นไปใช้ทำธุรกรรม ที่ทำให้เขาได้รับผลกระทบด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าเอกสารและตราประทับปลอมนั้น ถูกนำไปใช้ทำธุรกรรมใดบ้าง แต่ข่าว 3 มิติ มีข้อมูลว่า บ.เพราะสอน ที่นายบุญเลิศ เป็นกรรมการอยู่นั้น เป็นคู่สัญญาเช่าโกดังที่อำเภอภาชี ก่อนจะถูกใช้เก็บสารเคมี แต่แม้ บ.เพราะสอนจะเป็นผู้เช่า ก็ปรากฏว่า ผู้จ่ายเงินค่าเช่าด้วยการโอน มีชื่อนายโอภาส บุญจันทร์ เป็นผู้จ่าย จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่าทั้งสองบริษัทนี้เชื่อมโยงถึงกัน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่าพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานกรณีอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงถึงกัน รวมถึงคดีเพลิงไหม้ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีและรักษาการ ผบ.ตร.ที่ต้องเร่งคลี่คลายเรื่องนี้
ล่าสุด เอกสารหลักฐานที่ยึดได้จาก บ.วินโพรเสส จ.ระยอง เมื่อวานนี้ วันนี้ตำรวจทำบันทึกหลักฐานแล้วพบว่ามีทั้งหมด 1,122 แฟ้ม ขณะนี้ถูกส่งมอบให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อนำไปใช้ประกอบสำนวนคดีเอาผิดนายโอภาส บุญจันทร์ ตามข้อกล่าวหาในแต่ที่แจ้งไว้และที่กำลังในแต่ละพื้นที่