พ่อร้อง นรต.ซ้อมโดดร่มเสียชีวิต ผ่านมา 10 ปี ยังไม่ได้รับค่าชดเชย อ้างงบประมาณไม่เพียงพอ

กรณีนักเรียนเตรียมทหาร "ชยากร พุทธชัยยงค์" หรือโยโย่ เสียชีวิตจากการกระโดดร่มแล้วไม่กางใน จ.เพชรบุรี เเม้เหตุการณ์จะผ่านมานานถึง 10 ปีเเล้ว เเต่ทางครอบครัวก็ยังไม่ได้รับค่าชดเชยเยียวยา จากสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ทั้งที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาเเล้ว วันนี้พ่อผู้เสียชีวิต จึงตัดสินใจมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังพบข้อมูลว่า "กองบินตำรวจ" อ้างเหตุผลมีงบประมาณไม่เพียงพอ



นายสาธร พุทธชัยยงค์ พ่อของ นักเรียนเตรียมทหาร"ชยากร" หรือโยโย่ นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว โดยบอกว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งเเต่วันที่ 31 มีนาคม 2557 ผ่านมา 10 ปีเเต่จนถึงขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยังไม่ได้จ่ายเงินชดเชยเยียวยา ตามที่ศาลปกครองสูงสุด ได้อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา



โดยศาลสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชดใช้ค่าขาดไร้อุปการะให้กับพ่อผู้เสียชีวิต เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 29 ปี ซึ่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3 ล้าน 4 แสน 8 หมื่นบาท และมีดอกเบี้ยอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงค่าปลงศพอีก 2 แสน 7 หมื่น 7 พันบาท ให้ชำระภายใน 60 วัน



แต่ตอนนี้ ผ่านมา 90 วันแล้ว ก็ยังไม่ได้ชำระตามคำสั่งศาล เมื่อวานนี้ จึงโทรไปสอบถามศาลปกครอง จึงทราบว่าทาง"กองบินตำรวจ" ได้มีหนังสือถึงศาลปกครอง "ขอขยายเวลาในการชดใช้" และไม่ได้กำหนดกรอบว่าจะชำระเมื่อไหร่ โดยให้เหตุผล"ด้วยเหตุงบประมาณไม่เพียงพอ"



นายสาธร ยอมรับว่ากังวลใจมาก เพราะครอบครัวฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงาน-ไม่ใช่ฟ้องบุคคล แต่ทางสำนักงานกลับไม่สามารถชดใช้ให้ได้-ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้เกิดความคับข้องใจว่าเมื่อไหร่จะจบ แล้วตอนไหนจะชดใช้ ซึ่งขณะนี้ทราบว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้รับหนังสือแล้ว และได้เสนอ ตุลาการศาลปกครองว่า จะพิจารณาอนุญาติให้ขยายหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำตอบกลับมา



นอกจากนั้น ผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ก็จะไปเกี่ยวพันกับ การชดใช้ค่าเสียหายของศาลแพ่งฎีกา ในคดีที่พ่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทการบินไทย และบริษัทอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเมื่อ 31 ตุลาคม 2566 ศาลแพ่งฎีกา อ่านคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าขาดไร้อุปการะแก่พ่อ เดือนละ 15,000 บาทเป็นเวลา 25 ปี รวมประมาณ 4 ล้าน 5 แสนบาท แต่ก็มีคำพิพากษาเพิ่มเติมว่า ในคดีแพ่งที่ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ศาลปกครอง หากได้มาเท่าไหร่ จะต้องนำยอดของศาลปกครอง มาหักออกจากศาลแพ่ง แต่พอสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่จ่าย ก็ทำให้ทุกอย่างสะดุด ไม่สามารถที่จะนำยอด ชำระของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปหักออกจากศาลแพ่งได้ ทำให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ได้รับค่าขาดไร้อุปการะ



นายสาธร บอกว่าที่ออกมามาสู้คดีนี้ เพราะต้องการให้เกิดความตระหนักในหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน และเงินที่ได้มา ก็จะเอาไปทำบุญให้ลูกชายให้ได้มากที่สุด เขายอมรับว่าเหนื่อยจนไม่รู้จะพูดอย่างไร เเต่ก็เคารพกฎหมาย ทุกวันนี้ ยังมาคุยกับรูปของลูกชายในห้องทำงาน สิ่งแรกที่พูด ก็คือขอโทษที่พาลูกไปรายงานตัว เพราะนี่คือจุดที่พาไปสู่ความตาย จึงสัญญากับว่าจะต่อสู้จนกว่าจะเสร็จสิ้นทุกกระบวนการ



ผู้เสียหาย ยังมองว่า ความยุติธรรมควรได้มาโดยระบบ ไม่ใช่ได้มาโดยการที่ผู้เสียหาย จะต้องไปวิ่งดำเนินการเอง ส่วนคดีอาญา ขณะนี้อัยการสูงสุด ได้ส่งฟ้องไปยัง"ศาลศาลอาญาทุจริตและประพฤติไม่ชอบภาค 7" ซึ่งศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 เเละยื่นอุทธรณ์ไปเเล้ว ซึ่งตอนนี้ผ่านมา 2 ปีแล้ว ครอบครัวก็ยังรอคำพิพากษา