ยอดเสียชีวิตเหตุกราดยิงในคอนเสิร์ตที่รัสเซีย พุ่ง 133 ราย ด้าน IS รับอยู่เบื้องหลัง

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่คอนเสิร์ต ฮอลล์ นอกกรุงมอสโก ของรัสเซีย เมื่อคืนนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 133 คนแล้ว และบาดเจ็บ 140 คน ล่าสุด ทางการรัสเซียจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 4 คน โดยกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ได้ออกมายอมรับว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีครั้งนี้



นี่เป็นภาพของผู้ที่อยู่ภายในโครคัส ซิตี้ ฮอลล์" (Crocus City Hall) สถานที่จัดคอนเสิร์ตในเมืองคราส-โน-กอร์สก์ (Krasnogorsk) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก สามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะการกราดยิงได้ ในวิดีโอจะได้ยิงเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องตกใจของผู้ที่อยู่ภายในฮอลล์ ขณะเดียวกันก็เห็นกลุ่มควันไฟที่ฟุ้งไปทั่วทั้งฮอลล์



เหตุกราดยิงที่น่าตกใจครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนที่การแสดงคอนเสิร์ตของวงปิคนิค (Picnic) วงดนตรีร็อคในยุคโซเวียดจะเริ่มขึ้น โดยคนร้ายในชุดพรางอย่างน้อย 5 คน บุกเข้าไปฮอลล์ จากนั้นกราดยิงด้วยปืนอัตโนมัติ และขว้างระเบิดเพลิง



รายงานระบุว่า ระเบิดเพลิงที่คนร้ายขว้างใส่ในฮอลล์ ทำให้ไฟลามไปถึงหลังคา จนทำให้หลังคาพังถล่มบางส่วน ผู้คนวิ่งหนีตายออกมาตามท้องถนน หลังจากก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายหลบหนีออกไปโดยรถเรโนลด์ สีขาว



อย่างไรก็ตาม นักดนตรีของวงปิคนิค ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ ทางการรัสเซีย ระบุว่า ทันทีที่ได้รับทราบเหตุได้ส่งหน่วยสวาต หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และรถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 70 คัน ไปยังที่เกิดเหตุโดยทันที



ล่าสุด วันนี้ หัวหน้าความมั่นคงรัสเซีย เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีได้ 11 คน ในจำนวนนี้ 4 คนเกี่ยวข้องกับการโจมตีโดยตรง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 133 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 140 คน ในจำนวนนี้ 40 คนอยู่ในอาการสาหัส นับเป็นเหตุโจมตีรัสเซียที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี



ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยรัสเซียเริ่มเข้าไปเคลียร์พื้นที่ในจุดเกิดเหตุแล้ว ซึ่งฮอลล์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังถูกไฟไหม้และยังมีกลุ่มควันลอยขึ้น ภารกิจของเจ้าหน้าที่กู้ภัย คือ การค้นหาศพที่อาจติดค้างอยู่ใต้ซากปรักหักพัง และคาดว่า จะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก



ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ออกแถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เป็นการโจมตีที่ป่าเถื่อน และว่าผู้ที่รับผิดชอบต่อเหตุโจมตีต้องจะถูกลงโทษ ปูติน เผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุพยายามหลบหนีไปยังยูเครน นอกจากนี้ เขายังประกาศให้วันพรุ่งนี้ เป็นวันไว้ทุกข์ด้วย



ขณะที่มีรายงานว่า กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ได้ออกแถลงการณ์สั้นๆผ่านสำนักข่าวในเครือไอเอสว่า ว่ากลุ่มของตนเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้



ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สถานทูตสหรัฐในกรุงมอสโก ได้เคยเตือนก่อนหน้านี้แล้วว่า กลุ่มหัวรุนแรงได้เตรียมวางแผนโจมตีเป้าหมายที่มีผู้คนอยู่รวมตัวกันเป็นจำนวนมากที่กรุงมอสโก รวมถึงในงานคอนเสิร์ต ซึ่งสถานทูตสหรัฐฯได้เตือนพลเรือนของตนในรัสเซียให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ล่าสุดหลังเกิดเหตุที่ โคร คัส ซิตี้ ฮอลล์ ทางการสหรัฐฯได้แนะนำพลเรือนของตนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังรัสเซีย



สหรัฐฯเผยว่า ได้แจ้งข้อมูลนี้ไปยังเจ้าหน้าที่รัสเซียด้วยตามนโยบายที่มีมานานแล้ว อย่างไรก็ตามในแถลงการณ์ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ปูตินได้ตำหนิคำเตือนดังกล่าวของสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า เป็นการยั่วยุ จงใจที่จะข่มขู่และทำให้สังคมรัสเซียไร้เสถียรภาพ



ขณะที่นานาชาติได้ออกมาประณามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิต



นางยูเลีย นาวาลนายา ภรรยาหม้ายของอเล็กเซ นาวาลนี อดีตผู้นำฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้โพสต์ข้อความว่า เหตุการณ์ที่โครคัส ฮอลล์ เป็นฝันร้าย ขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุอาชญากรรมในครั้งนี้จะต้องรับผิดชอบ



ขณะที่จอร์จา เมโลนี นายกรัฐมนตรีหญิงอิตาลี โพสต์ว่า เหตุสังหารหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในกรุงมอสโกเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ รัฐบาลอิตาลีขอประณามเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่เกิดจากการกระทำที่เลวร้ายของกลุ่มก่อการร้าย เธอขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้



ส่วนกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน เซอร์เบีย และเบลารุส ได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจไปยังเหยื่อและผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ขอร่วมแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับเหยื่อและครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก นอกจากนี้ขอประณามความรุนแรงทุกรูปแบบ



ด้านกระทรวงวัฒนธรรมรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ งดกิจกรรมบันเทิงและงานที่มีผู้คนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมากทั้งหมดในรัสเซีย ขณะที่กรุงมอสโกป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ขึ้นข้อความ "เราขอแสดงความเสียใจ" ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่คอนเสิร์ต ฮอลล์



เช่นเดียวกับ รัฐบาลรัสเซีย ก็สั่งคุมเข้มความปลอดภัยระบบขนส่งในกรุงมอสโก ตั้งแต่สนามบิน สถานีรถไฟใต้ดินและรถไฟ จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุ แม้ว่ากลุ่มไอเอสจะออกมาอ้างว่า อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว