สังคม
ภาคประชาสังคมยื่น 1,088 รายชื่อ ร้องรัฐปล่อยชาวอุยกูร์ ถูกขับนาน 10 ปี
โดย panwilai_c
14 มี.ค. 2567
38 views
ภาคประชาสังคมนำรายชื่อประชาชนร่วมเรียกร้องรัฐบาลปล่อยตัวชาวอุยกูร์ เสนอผ่านสามกรรมธิการ ในสภาผู้แทนราษฎร หวังผลักดันให้แก้ไขปัญหาเร่งด่วน หลังถูกกักขังมา 10 ปี
เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ, เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ มูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ นำรายชื่อประชาชน จำนวน 1,088 คน ยื่นต่อตัวแทนคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ, คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ และคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ขอให้หาแนวทางให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ที่อยู่ในห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ครบ 10 ปีในวันนี้
เนื่องจากชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ถูกพบและควบคุมตัวโดยทางการไทยตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2557 ด้วยข้อหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจากการหลบหนีการประหัตประหารในประเทศต้นทาง ใช้วิธีการเดินเท้าเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ราว 350 คน จากนั้นทางการไทยได้ทำการแบ่งตัวผู้ต้องขังชาวอุยกูร์เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นผู้ชาย 109 คน ถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน, กลุ่มผู้หญิงและเด็ก 172 คนถูกส่งไปประเทศที่สามแล้ว และ ยังเหลืออีกกลุ่มที่ยังอยู่เป็นผู้ต้องกัก ที่ สตม.ประเทศไทย นาน 10 ปี ในสภาวะไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย ไม่สามารถนอนเหยียดตรงได้ มีผู้เสียชีวิตในห้องกักไปแล้วกว่า 5 คน โดย 2 ใน 5 เป็นเด็กอายุ 3 ปี และ 2 วัน
นายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ.ความมั่นคง กล่าวว่า เคยไปที่ห้องกักพบว่ามีสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ต่างจากการอยู่ในคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีคำพิพากษาว่ากระทำความผิดตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสได้เยี่ยมหรือได้พักโทษ ซึ่งสภาพปัจจุบันก็เสี่ยงที่เจ้าหน้าที่ไทยจะถูกมองว่ากระทำการขัดต่อ พ.ร.บ.การป้องกันการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เพราะพฤติการณ์อาจมองว่าเป็นการกระทำย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และรัฐบาลจำเป็นต้องมองไปข้างหน้าและตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับคนกลุ่มนี้ ทั้งการหาสถานที่ที่มีสภาพดีกว่านี้ หรือจะส่งไปประเทศที่ 3
ด้านนายกัณวีร์ สืบแสง รองประธาน กมธ.การกฎหมายฯ กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีความกล้าในการแก้ปัญหาชาวอุยกูร์ จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ไทยได้รับการยอมรับว่าเคารพสิทธิมนุษยชนในเวทีระหว่างประเทศ
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า การที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บอกว่าชาวอุยกูร์ไม่อยากกลับประเทศจีน แต่อำจาจพิจารณาว่าการส่งไปประเทศที่ 3 อยู่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็ไม่ควรปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไป เพราะทุกนาทีหมายถึงชีวิตและความปลอดภัยที่ไม่ควรมีใครต้องเสียชีวิตไปอีก