เลือกตั้งและการเมือง

"ภูมิธรรม-ทวี" นำคณะสื่อ ออกเดินทางไปจีน ดูชีวิตความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ในซินเจียง

โดย nutda_t

18 มี.ค. 2568

127 views

เมื่อเวลา 23.30 น. ที่ท่าอากาศกองบิน 6 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พลตำรวจเอก รอย อิงค์ไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และคณะผู้แทนไทย ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ ไปยังเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ หลังจากประเทศไทยส่งกลับ

เมื่อเดินทางไปถึง คณะจะแบ่งออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดของนายภูมิธรรม กับชุดของ พันตำรวจเอก ทวี ทั้งนี้ที่ต้องมีการแยกคณะ เนื่องจากมณฑลซินเจียงเป็นพื้นที่ใหญ่มาก ใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 3 เท่า และชาวอุยกูร์ ต่างก็แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา ตามเมืองต่างๆ ในมณฑลซินเจียง ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน โดยคณะต้องนั่งรถออกไป 250-300 กิโลเมตร

นอกจากนี้ จะมีการหารือกับผู้นำศาสนาอิสลาม ที่มัสยิดอิดกะฮ์ รวมทั้งมีการประชุมหารือร่วมกับแพทย์ที่รักษาตัวชาวอุยกูร์ ก่อนที่ช่วงค่ำ จะหารือกับ นายหม่า ซิงรุ่ย เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์



นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางว่า ตนตั้งใจจะไปดู 40 คน ที่เราส่งไปครั้งนี้ และขณะนี้ยังได้ขอทางจีน ผ่านทาง นายหาน จื้อเฉียง เอกอักคราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อเจอกับกลุ่มชาวอุยกูร์ที่ส่งไปรอบก่อนหน้านี้ ซี่งก็ไม่ได้ปฏิเสธ คิดว่าจะพยายามจัดการให้ จนอยากให้เห็นว่ากระบวนการต่างๆ สามารถทำให้ชาวอุยกูร์เลือกอนาคตของตัวเองได้ ตนตั้งใจเจอทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และจะไปพบกับผู้นำทางศาสนาอิสลามในพื้นที่ที่คลายกับจุฬาราชมนตรีของไทย รวมถึงแพทย์ผู้ให้การรักษา เพื่อให้รู้ว่าเขากลับไปแล้วภาพเป็นอยู่เมื่อส่งกลับบ้านแล้วเป็นอย่างไร เราพยายามไปเจอที่บ้านให้ได้มากที่สุด แต่เท่าที่ทราบ เขาอยู่ห่างไกลกันมาก เนื่องจากพื้นที่ซินเจียงอุยกูร์ เขาใหญ่กว่าไทยถึง 3 เท่า โดยจะพบกับชาวอุยกูร์ที่อยู่ใกล้เมืองคาซือ ระยะทางห่างประมาณ 150 -170 กิโลเมตร แต่ถ้าไกลกันมาก ก็ขอให้ซูมมา จะได้พูดคุยและเห็นหน้า พร้อมทั้งยังได้ขอนายหาน ให้สื่อมวลชนที่ไปกับคณะ เข้าไปยังบ้านพักที่ตนเข้าไปพบด้วย ตนขอให้ทางการจีนยืดหยุ่นกับเรา ถ้ามีเงื่อนไขเต็มไปหมด แล้วไม่ได้เจอใครเลย ถ้าไปอย่างนี้ตนตายแน่ เราอยากให้สื่อได้เจอ และคณะที่เดินทางไปนี้ มีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่คอยดูแลคนเหล่านี้ร่วมคณะไปด้วย เพื่อจะได้ช่วยในเรื่องการสื่อสารเพราะคุ้นเคยกัน

“เราอยากดูชาวอุยกูร์ตามสิ่งที่เขาเป็น เพื่อให้เห็นว่าตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร รวมถึงการฝึกอาชีพให้กับเขาอย่างไร เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้ต่างไปจาก 10 ปีที่แล้วอย่างไร และเหตุผลที่ขอให้เบลอภาพชาวอุยกูร์นั้น เพราะเป็นความประสงค์ของเขา เพราะเขาอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ” นายภูมิธรรม  กล่าว



คุณอาจสนใจ

Related News