สังคม
กมธ.ตร.-สวัสดิการสังคม จับตาการทำงาน ตร.อรัญประเทศ ชี้ฟังไม่ขึ้น คลุมถุงดำแค่หยอก
โดย panwilai_c
18 ม.ค. 2567
40 views
คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม จะเดินทางไปพบนายปัญญา หรือนายเปี๊ยก ที่จังหวัดปทุมธานีพรุ่งนี้ พร้อมสั่งจับตาการทำงานของตำรวจสืบสวน สภ.อรัญประเทศ หลังเกิดการคลุมถุงดำบังคับให้นายเปี๊ยกรับสารภาพในคดีที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ และย้ำว่า การที่ตำรวจนายหนึ่ง บอกว่า ที่ใช้ถุงดำคลุมหัว เป็นการหยอกล้อนั้น ฟังไม่ขึ้น
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร บอกว่า การออกมาชี้แจงว่าคลิปที่ซ้อมนายเปี๊ยกเป็นเพียงแค่การหยอกล้อ นั้น ฟังไม่ขึ้น จะเห็นได้ว่ารองผู้กำกับสืบสวนและสอบสวน ถูกย้ายไปช่วยราชการแล้ว 1 นาย และการทำร้ายผู้ต้องหานั้น มีร่างพระราชบัญญัติอุ้มหายฯคุ้มครองอยู่แล้ว ดังนั้น ตำรวจทำถึงขั้นนั้นไม่ได้ หากใครทำก็ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หากผิดจริงต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้น
นายชัยชนะ กล่าวว่าการประชุมวันนี้ เป็นวาระเร่งด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์ หากเรื่องต่างๆยังไม่ชัดเจน ก็จะลงพื้นที่ เบื้องต้นได้ไปพูดคุยกับนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการและสังคม ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะลงพื้นที่ไปพบกับนายเปี๊ยก
นายชัยชนะ กล่าวว่า ชั้นพนักงานสืบสวนสอบสวนต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะในเรื่องการออกหมายจับบุคคลที่เป็นแพะ และเข้าไปรับโทษมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดพลาด และต้องไปมองว่าตำรวจช่วยตำรวจหรือไม่ เพราะ 2 คนที่กระทำความผิดเป็นลูกตำรวจ และทำไมถึงไม่ออกหมายจับตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งนี้ สิ่งที่น่ากังวลในอนาคตคือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 73 และ 75 ค่อนข้างเขียนช่วยเยาวชนไว้ชัดเจน หรือในมาตรา 74 ที่ระบุว่าหากผู้กระทำความผิดอายุไม่เกิน 14-15 ปี ก็ให้ศาลเป็นดุลยพินิจ จึงกังวลเรื่องนี้มากที่สุด
ขณะเดียวกัน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย หนึ่งในองค์กรที่ขับเคลื่อนเพื่อยุติการทรมานและอุ้มหาย ที่ร่วมผลักดันร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้พูดคุยกับ นายสมชาย หอมลออ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เกี่ยวกับคดี การคุลมถุง นายปัญญา
โดยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ชี้ว่า ตำรวจไม่มีอำนาจคลุมถุงดำ ขณะสอบปากคำ นายปัญญา และระบุว่า ผิดกฎหมายทรมาน-อุ้มหาย ม.6 อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำ โหดร้ายไร้มนุษยธรรม-ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิด ม.157 และขณะควบคุมตัวต้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวเป็นหลักฐานยืนยันความโปร่งใสขณะจับกุม ย้ำตำรวจไทยต้องไม่ลืมปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามทรมานอุ้มหาย
ล่าสุด มีรายงานว่า พรุ่งนี้ นายชัยชนะ พร้อมด้วยนายณัฐชา จะไปที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อพูดคุยกับนายเปี๊ยก สอบถามรายละเอียด และข้อมูลเกี่ยวกับคดี โดยจะไม่รอผลการสอบปากคำ จากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ที่ไปดำเนินการสอบสวนมาในวันนี้