อัยการสั่งฟ้อง 7 ผตห.คดีหุ้นสตาร์ค กลุ่มผู้เสียหายข้องใจ ทำไมสั่งฟ้องไม่ครบ

อัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับหุ้นบริษัทสตาร์ค คอร์ปอเรชั่น ทั้งหมด 7 ราย พร้อมกับนำตัวส่งศาลอาญารัชดา และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทำให้คดีนี้ นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตผู้บริหารสายการเงินของบริษัทสตาร์ค และเป็นคนแรกๆที่ออกมาเปิดโปงว่าถูกสั่งให้ตกแต่งบัญชีงบการเงินของบริษัท ต้องถูกควบคุมตัวเข้า เรือนจำทันที



อย่างไรก็ตามมีข้อน่าสังเกตว่ามีคนสำคัญหลายคน ที่ กลต.ได้กล่าวโทษว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ถูกสั่งฟ้องโดยเฉพาะฝ่ายกฎหมายของบริษัทสตาร์ค ที่ถูก

กลต.กล่าวโทษด้วย แต่ไม่มีชื่อในกลุ่มถูกสั่งฟ้องหรือถูกสั่งสอบเพิ่ม ทำให้ผู้เสียหายจากหุ้นสตาร์ค ตั้งข้อสังเกตว่าชื่อหลุดหายไประหว่างทางได้อย่างไร



ผู้ต้องหา 7 ราย ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษมีความเห็นสั่งฟ้อง และส่งฟ้องต่อศาลอาญารัชดาเมื่อบ่ายวันนี้ ประกอบด้วย นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ /อดีตกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินและเลขานุการ บ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น / 2.บ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น /3 บ.เฟ้ลป ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล/4.บริษัทอดิสรสงขลา/

5.บริษัทไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 6. บริษัทเอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง ซึ่งบริษัทเหล่านี้อยู่ในเครือสตาร์ค และ7 คือนางสาวนาตยา ปราบเพชร ถูกล่าวหาว่ารู้เห็น เกี่ยวข้องในการตกแต่งบัญชี



ในความผิดตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฐานตกแต่งบัญชี ฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน ตาม พรบ.ปปง.มีผู้เสียหาย4704 คน มูลค่ากว่า14778 ล้านบาท



-แม้ว่าทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นสลากออกสิน 10 ล้านบาท เพื่อประกันตัวนายศรัทธา แต่ศาลไม่อนุญาตให้ทั้งหมดประกันตัวจึงถูกคุมขังทันที



คดีนียังมีสำนวนผู้ตองหา 4คนที่ไม่ถูกสั่งฟ้องในวันนี้ แยกเป็นสำนวนคดีนายนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ถือหุ้นใหญ่บ.สตาร์ค / และนางสาวยสบวร อำมฤต ที่เป็นเลขานุการ พนักงานอัยการให้สอบสวนเพิ่ม ส่วนอีก 2 ส่วน คือนายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม วันนี้ให้ทนายมารับฟังคำสั่งโดยแจ้งว่าป่วย อัยการอยู่ระหว่างตรวจสอบและอีกสำนวน ที่สำคัญ คือกรณีนายธนินทร์ เย็นสุดใจ ซึ่งหลบหนีอยู่ต่างประเทศ



นอกจาก 4 สำนวนคดีดังกล่าวแล้ว ที่ปรึกษากฎหมายของนักลงทุนหุ้นกู้ ตั้งข้อสังเกตว่านายชินวัตร อัศวโภคี เป็นอีกคนที่มีบทบาทสำคัญต่อคดีนี้ แต่กลับไม่มีชื่อถูกสั่งฟ้อง หรือสอบสวนเพิ่ม กลุ่มผู้เสียหายเห็นว่าเรื่องนี้ผิดปกติที่อยากให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งขั้นตอนสอบสวนและชั้นอัยการชี้แจงให้ชัดเจน



กลุ่มผู้เสียหายจากหุ้นกู้สตาร์ค ยังเรียกร้องให้ทั้งดีเอสไอ และพนักงานอัยการดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อนำทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้าไปสู่กระบวนการ สู้คดีในศาลให้ได้ เพราะหลักฐานที่ปรากฏจะนำไปสู่การยื่นฟ้องคดีแพ่งที่ผู้เสียหายจะยื่นฟ้องโดยตรง



สำหรับนายศรัทธา ที่ถูกนำตัวเข้าเรือนจำวันนั้น เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ส่งหนังสือถึงอัยการคดีพิเศษและอีกหลายหน่วยงาน เพื่อขอความเป็นธรรมโดยระบุว่า มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าเขามีอำนาจสั่งการหน่วยงานทุกแผนก ของบ.สตาร์ค และบริษัท ซึ่งเขาระบุว่าไม่เป็นความจริง และการกล่าวหาเช่นนั้น เป็นการเปิดช่องให้ นายวนรัชต์ ที่เป็นผู้มีอำนาจตัวจริงของสตาร์ค พ้นผิดหรือไม่ เขาจึงขอให้อัยการสอบเพิ่มในประเด็นความรับผิดชอบในงาน รวมถึงการครอบงำกิจการของนายวนรัชต์ ต่อบริษัทสตาร์และบริษัทย่อยในเครือ



อย่างไรก็ตาม รักษาการอธิบดีดีเอสไอยืนยันว่าการสอบสวนเป็นไปโดยชอบและเมื่อส่งสำนวนพร้อมความเห็นให้พนักงานอัยการแล้ว ก็เป็นดุลยพินิจอัยการโดยตรงว่า จะสั่งฟ้องใครบ้าง กระทั่งที่วันนี้ มีความเห็นสั่งฟ้อง 7 ราย และให้ที่เหลือ 2 ราย คือนายวนรัชต์ และนางสาวยศบวร ที่อัยการให้สอบสวนเพิ่ม