‘เสี่ยแป้ง’ ร้องผ่านคลิป อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการถูกดำเนินคดี-อส. เรียกสำนวนทั้งหมดตรวจสอบแล้ว

ความคืบหน้าหลังนายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด เผยแพร่คลิปสาเหตุที่หลบหนีการควบคุมตัว โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการถูกดำเนินคดี วันนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ได้เรียกสำนวนทั้งหมดมาตรวจสอบแล้ว และที่สำคัญวันนี้อดีตตำรวจชุดจับกุมที่อยู่ในเหตุการณ์ ออกมาให้ข้อมูลว่าสิ่งที่นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้งเผยแพร่ผ่านคลิป เป็นเรื่องจริง


ความคืบหน้าหลังนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด อัดคลิป เปิดใจสาเหตุที่ต้องวางแผนหลบหนี เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี ปล้นผู้ต้องหาคดียาเสพติดจากตำรวจ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 แต่กลับถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว ส่วนผู้เกี่ยวข้องอื่นและผู้วางแผน รวม 5 คน ประกอบด้วย อัยการ บ./ตำรวจยศจ่า 2 นาย/ประธาน ต. / และพ่อนาย จ. ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ไม่ถูกดำเนินคดี


ล่าสุด พันตำรวจโท วีระศักดิ์ คงเพชร อดีด ผบ.ร้อย ตชด.434 พัทลุง หนึ่งในตำรวจชุดจับกุมได้เล่าเบื้องหลังคดีว่า ก่อนที่ตนเองจะจับกุมนาย จ. ได้จับเครือข่ายยาเสพติดได้ 1 คน จากสุราษฎร์ธานี จึงขยายผลทราบว่า มีหัวหน้าใหญ่ฉายา ต้น พม่า / ตำรวจได้แชทคุยกับนายต้น จึงทราบว่า มีการซื้อขายยาบ้ากับนาย จ. ที่รับยาบ้ามา 17 เป้ รวม 850 มัด มัดละ 15,600 บาท รวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท แต่ นาย จ. จ่ายเงินแค่ 2 ล้าน 9 แสนบาท


จากนั้นตำรวจได้ตามไปจับนาย จ. ที่บ้าน โดยได้ถ่ายภาพ และบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน จึงมีคลิปเสียงตำรวจคุยกับนาย จ. ให้ขยายผลนำยาบ้าที่เอาไปมาส่งคืน โดยนัดให้นำยาบ้าที่เหลือ 5 เป้ จำนวน 300 มัด มาวางไว้ นาย จ.ได้ต่อรอง ว่า หากทำตามจะขอไม่ถูกจับ โดยจะไปบวช ไปฟังเสียงช่วงนี้


ต่อมา นาย จ. ได้โทรศัพท์ไปหาลูกพี่ ทราบภายหลังว่า คือ "อัยการ บ." เพื่อให้ลูกน้องนำของกลางที่เหลือมาให้ตำรวจ อ้างว่า เจ้าของยาบ้ามาทวงคืน เพราะจ่ายเงินไม่ครบ ซึ่งตำรวจได้ถ่ายคลิป และบันทึกการสนทนาไว้ทั้งหมด พร้อมให้ตนเองขอกำลังเสริม มาร่วมจับกุมเครือข่ายที่นำยาบ้ามาส่ง แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย กลับมีรถตู้ปริศนา 1 คัน และกระบะสีดำอีก 2 คัน ขับมาประกบหน้าหลังรถตำรวจชุดจับกุม


ขณะนั้น นาย จ. ได้หนีลงจากรถเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแล้ว และยังได้แย่งปืนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ไปยิงใส่ตำรวจ 1 คน ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขา โดยเสี่ยแป้ง ไม่ใช่คนยิง จากนั้นได้พากันหลบหนี โดยนาย จ. ได้นำโทรศัพท์มือถือที่ตำรวจบันทึกการจับกุมเอาไปด้วย / ตนขอยืนยันว่า เรื่องที่เสี่ยแป้งถูกหลอกให้ไปช่วยนาย จ.เป็นเรื่องจริง


ขณะที่นาย วัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยกรณีที่เสี่ยแป้ง นาโหนด ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินคดี และพาดพิงถึงอัยการ บ. ว่า อัยการสูงสุดได้สั่งให้อธิบดีอัยการภาค 9 ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริง พร้อมแนบเอกสารสำนวนการสอบสวนคดีนี้ และสำนวนที่มีการสั่งคดีที่เกี่ยวกับผู้ต้องหา 7 คน ที่มีทั้งเสี่ยแป้ง และอัยการที่ถูกพาดพิงถึง


โดยมอบหมายให้อธิบดีอัยการ สำนักงานวิชาการ ตรวจสอบทั้ง 2 ส่วน คือ ส่วนที่ อธิบดีอัยการจังหวัดสั่งไม่ฟ้อง และส่วนที่อธิบดีอัยการภาค 9 สั่งฟ้องบางคน และไม่ฟ้องบางคนโดยให้ตรวจสอบอย่างเร็วที่สุดว่าการสั่งคดีถูกต้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่