สังคม

'อัจฉริยะ' ตั้งข้อสงสัย ได้ดำเนินคดีหรือไม่ หลังพบหลักฐานการตรวจตับหมู บ.เวลท์ตี้ฯ ติดเชื้อโรค

โดย panisa_p

16 พ.ย. 2566

189 views

ข่าว 3 มิติ ได้รับเอกสารที่เชื่อถือได้ เกี่ยวกับกรณีตับหมูแช่แข็งของบริษัทเวลท์ตี้ แอนด์ เฮลท์ธี่ ฟู้ด จำกัด ที่เก็บอยู่ในห้องเย็นในจังหวัดสมุทรสาคร เอกสารนั้นระบุว่าตับหมูแช่แข็ง 75 ตัน เคยถูกตรวจพบเชื้อโรคจำนวน 1.5 ตัน จึงมีการถอนอายัดตับหมูชุดดังกล่าวไปทำลายแล้ว และก็ถอนอายัดตับหมูที่เหลือ 73 ตันคืนให้ผู้ครอบครอง อย่างไรก็ตาม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนเรื่องการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนตั้งแต่แรกๆ ขอให้กรมปศุสัตว์แสดงหลักฐานว่า ได้นำหมูชุดดังกล่าวไปทำลายหรือไม่ และได้ดำเนินคดีตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์หรือไม่



สินค้าแพคนี้ คือ ตับหมูแช่แข็งส่วนหนึ่งของบริษัทเวลท์ตี้ แอนด์เฮลท์ตี้ ฟู้ดจำกัด ที่ใช้บริการฝากแช่เย็นไว้ที่ห้องเย็นแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทั้งอธิบดีดีเอสไอ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่งเข้าไปตรวจสอบเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยพบในข้อมูลว่ามีอยู่ราว 70 กว่าตัน ซึ่งทั้งดีเอสไอและปศุสัตว์ อยู่ระหว่าง ตรวจสอบว่าการสำแดงการนำเข้าตรงประเทศหรือไม่ เพราะในเอกสารระบุว่าเนเธอร์แลนด์ แต่ดีเอสไอพบหลักฐานอื่นที่สงสัยว่าอาจมาจากเยอรมัน ซึ่งขณะนั้นอยู่ช่วงห้ามนำเข้า



ล่าสุดข่าว 3 มิติพบเอกสาร 2 ชุด เกี่ยวกับตับหมูชุดนี้ เอกสารชุดแรกบ่งชี้ว่าเมื่อ 6 ตุลาคมปีที่แล้ว มีชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท และกองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ ร่วมกับตำรวจ ปคบ. มาตรวจสอบห้องเย็น พบตับหมูแช่แข็งของบริษัทมายเฮาส์ ที่ฝากเก็บที่ 75 ตัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดอายัดไว้ก่อน เพื่อให้ห้องเย็นชี้แจงที่มา รวม 75,130 กิโลกรัม หรือ 75 ตัน ข่าว 3 มิติยืนยันว่าการตรวจค้นดังกล่าว เป็นขั้นตอนปกติของเจ้าหน้าที่ซึ่งดำเนินการตามกฎหมาย



อย่างไรก็ตาม มีเอกสาร 1 ชุด เป็นบันทึกถ้อยคำของผู้ที่เป็นตัวแทนของบริษัทเวลท์ธี์ฯ เจ้าของสินค้าที่รับซื้อมาจาก บ.มายเฮาส์ เขียนเมื่อ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา กล่าวอ้าง ย้อนหลังไปเหตุการณ์ 6 ตุลาคมปีที่แล้ว ที่มีการตรวจค้น ยึด อายัด และนำตัวอย่างหมู 3 กล่องไปตรวจสอบหาเชื้ออหิวาห์แอฟริกาในสุกรและจุลินทรีย์ก่อโรค พบว่าตับหมูแช่แข็งที่มีสติกเกอร์ DE 1,530 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน ครึ่ง พบเชื้อซัลโมแนลา ส่วนที่ไม่มีสติกเกอร์ DE 73 ตัน ไม่พบเชื้อโรค ในท้ายเอกสารระบุว่าบริษัทเวล์ทตี้ ประสานมอบซากสัตว์ 1,530 กิโลกรัม ที่พบว่าติดเชื้อให้เจ้าหน้าที่ไปทำลาย



ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ติดตามเรื่องนี้มาด้วย แสดงความเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหน้าที่ตรวจค้นตามปกติก็จริง แต่น่าสงสัยว่าเมื่อพบการติดเชื้อโรคแล้ว ได้ดำเนินคดีผู้นำเข้าตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์หรือไม่ ได้ทำลายตับหมูที่พบ 1.5 ตัน นั้นหรือไม่อย่างไร และตับหมูชุดนั้น มาพร้อมกันทั้งหมด 75 ตัน เมื่อพบเชื้อแล้วเหตุใดแต่ไม่ทำลายทั้งหมดนั้น ทำได้หรือไม่



นายอัจฉริยะ ยังระบุว่า ได้สอบถามกรณีนี้ไปยังตำรวจ ปคบ. ในฐานะที่ปรากฏในเอกสารบันทึกว่ามีส่วนร่วมตรวจค้น แต่นายอัจฉริยะอ้างว่าได้รับคำตอบจากตำรวจ ปคบ.ว่าไปในฐานะพยานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติตั้งข้อสังเกตว่าหากจะมีการแจ้งความเอาผิด ก็อาจแจ้งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ท้องที่เก็บตับหมูแช่แข็งก็เป็นได้ หรืออาจทำลายไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รายงานสาธารณะชน เนื่องจากเกิดขึ้นก่อนจะเป็นคดีพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงนี้ ไม่ได้ถูกรายงานหรือกล่าวถึงในระหว่างที่ดีเอสไอตรวจค้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงทำให้ข้อมูลนี้ยังเป็นที่สงสัย

คุณอาจสนใจ