'ศาลฎีกา' พิพากษาให้ 'กองทัพบก' ชดใช้เยียวยา 2 ล้าน ให้คดีชัยภูมิ ป่าแส

วันนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้กองทัพบกชดใช้เยียวยาให้ครอบครัวชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ที่ถูกทหารวิสามัญฆาตกรรม เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 วงเงิน 2,072,400 บาท พร้อมให้จ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ขณะที่องค์กร Protection Internationl เรียกร้องรัฐบาลสร้างบรรทัดฐานที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรวม ด้วยการลงโทษผู้กระทำความผิด


วันนี้ที่ศาลแพ่งรัชดา ศาลฎีกาได้นัดพิพากษาคดีที่นางนาปอย ป่าแส มารดาของชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักกิจกรรมชาติพันธ์ลาหู่ ยื่นฟ้องเมื่อปี 2562 ต่อศาล เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด จากกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหารด่านบ้านรินหลวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่วิสามัญฆาตกรรมชัยภูมิเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560


โดยศาลมีคำพิพากษาให้กองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหารที่วิสามัญฆาตกรรมชัยภูมิมีความผิดตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด และต้องชดใช้เยียวยาให้กับครอบครัวของชัยภูมิเป็นจำนวน 2,072,400 บาท


ปรีดา นาคผิว ทนายความจากมูนิธิผสานวัฒนธรรมกล่าวว่าถึงรายละเอียดข้อกฎหมายในวันนี้ว่า ศาลฎีกาได้กลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นที่ยกฟ้อง ข้อสำคัญคือข้อเท็จจริงที่ศาลรับฟังนั้น ถือได้ว่าศาลฎีกามีความละเอียดมากพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลของการเกิดเหตุการณ์ขึ้นในวันที่ 17 มี.ค. 2560 เรื่องกล้องวงจรปิด ศาลฟังว่ากล้องวงจรปิดพยานฝ่ายจำเลย เจ้าหน้าที่รวมทั้งพนักงานสอบสวนที่ตรวจสอบมาแล้วได้ยืนยันว่ากล้องวงจรปิด 9 ตัวนั้นใช้งานได้ 6 ตัว ศาลฟังแล้วเชื่อได้ว่ามีการปกปิดข้อเท็จจริงในส่วนนี้ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์


ส่วนพฤติการณ์ที่อ้างว่าชัยภูมิมีระเบิดจะขว้างใส่เจ้าหน้าที่ทหารจึงต้องยิงป้องกันตัวนั้นก็ฟังไม่ได้ เพราะตอนที่ให้หยุดรถตรวจค้นตัว ตรวจค้นรถก็ชัดเจนว่ามีการเปิดข้างในรถเปิดประตูทั้งสี่บาน เปิดท้ายรถ เปิดด้านหน้ารถหมดแล้วเจ้าหน้าที่ทหารเองก็ยืนยันว่าตอนตรวจค้นนั้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตรวจไม่เจอแล้วชัยภูมิจะวิ่งไปเอาระเบิดนั้นในภายหลัง


ศาลเชื่อว่าทหารยิงเพื่อสกัดไม่ให้ชัยภูมิหลบหนี และยิงหนึ่งนัด ไม่ได้ตั้งใจ ศาลฟังว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่าแต่เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ผู้ยิงนั้น เมื่อเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อและทำให้ชัยภูมิเสียชีวิตจึงเป็นการละเมิด


ขณะที่ ตัวแทนจากองค์กร Protection International ระบุว่า รัฐบาลในขณะนี้จะลงโทษผู้กระทำความผิด ชดเชยความเสียหายและเยียวยาครอบครัวของชัยภูมิที่นอกเหนือจากที่ศาลสั่งตามหลักความยุติธรรมในความรับผิดกรณีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการวิสามัญฆาตกรรมประชาชน เพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อไปและให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม.


ทางด้านนางนาปอย ป่าแส มารดาของชัยภูมิ กล่าวภายหลังรับทราบคำพิพากษาของศาลว่า รู้สึกดีใจกับคำตัดสินของศาลที่มีออกมาในวันนี้มาก ที่ผ่านมาชัยภูมิเป็นกำลังหลักสำคัญของครอบครัว พอไม่อยู่ครอบครัวก็ทุกข์ทรมานมาก และขอบคุณหลายๆ องค์กรที่เข้ามาช่วยครอบครัวในการสู้คดีครั้งนี้ด้วย วันนี้จะพูดกับลูกได้แล้วว่าพวกเราได้รับความยุติธรรมแล้ว