กต.แจ้งคนไทยในอิสราเอล เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ถูกจับอีก 1 ราย

วันนี้ (4 พ.ย. 66) กระทรวงการต่างประเทศก็รายงานล่าสุด มีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มจากสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มอีก 2 คน และถูกจับเป็นตัวประกันอีก 1 คน ทั้งนี้ยังได้เปิดประสานงานช่วยคนไทยกลับประเทศต่อเนื่อง



จากการสรุปสถานการณ์ในอิสราเอลและฉนวนกาซา ของกระทรวงการต่างประเทศ ล่าสุด รายงานตัวเลข ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน คนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน รวมเสียชีวิต เป็น 34 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ ยังคงเดิม คือ 19 คน ในจำนวนนี้อยู่ในโรงพยาบาล 4 คน และมีผู้ถูกจับกุมเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 24 คน



ส่วนสรุปจำนวนเที่ยวบินอพยพที่สถานทูตจัดสรรในระยะแรก รวม 35 เที่ยวบิน จำนวนผู้ได้รับการช่วยเหลือ 7,470 คน



ทั้งนี้สถานทูตได้ปิดศูนย์พักพิง ที่โรงแรม David InterContinental แล้ว แต่คนไทยยังสามารถติดต่อสถานทูตเพื่อขอความช่วยเหลือได้



ส่วนที่จังหวัดปัตตานี วันนี้ ชาวมุสลิมร่วม 4,000 คน ร่วมละหมาดฮายัตและขอดุอาเพื่อพี่น้องมุสลิมในปาเลสไตน์ ที่ มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี โดย สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี และองค์กรเครือข่ายสมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ จากในสถานการณ์อันรุนแรงระหว่าง อิสราเอล-ปาเลสไตน์ เด็กและประชาชนผู้บริสุทธิ์" เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ในพื้นที่ฉนวนกาซา



ดังนั้นมุสลิมซึ่งเชื่อในเรื่องของความเป็นพี่น้องมุสลิมและจิตเมตตาด้านมนุษยธรรมจึงไม่อาจอดทนอยู่เฉยได้ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี และองค์กรเครือข่าย จึงต้องจัดให้มีกิจกรรมการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติการทางทหารต่อเด็กและประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างสันติวิธีและสร้างสรรค์ รณรงค์และสนับสนุนให้ยุติความรุนแรงในปาเลสไตน์ด้วยการละหมาดฮายัตร่วมกัน ดุอา ขอพร



พร้อมชูป้ายหรือธงสัญลักษณ์ของปาเลสไตน์ ในการละหมาดฮายัต นำละหมาดโดย ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ปิดท้ายด้วยการอ่านแถลงการณ์ โดย นายชารีฟ สาอิ ตัวแทนเครือข่ายสมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ- CAP(Civil Assembly for Peace) ขอประณามรัฐอิสราเอลที่กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ในฉนวนกาชา ปาเลสไตน์ ส่งผลให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ เด็กทารก และบุคลากรทางการแพทย์ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตล้มตายจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ และได้เรียกร้อง 3 ประการ คือให้อิสราเอล ยุติการปฏิบัติการเลวร้ายทันทีต่อประชาชนปาเลสไตน์ ให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการกดดันทางการทูตต่ออิสราเอลเพื่อให้ยุติ ปฏิบัติการทางทหารอย่างเร่งด่วนที่สุด และให้คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมภายใต้กรอบกฎหมาย ระหว่างประเทศว่าด้วยการทำสงคราม และ ขอวิงวอนต่อพี่น้องประชาชาติมุสลิมทั่วทุกมุมโลก "โปรดอย่านิ่งเฉย" และช่วยกันสนับสนุน ช่วยกันดุอาร์ให้แก่พี่น้องของชาวปาเลสไตน์



ขณะเดียวกันที่ สนามหญ้าเทียมฟาตอนี อ.เมือง จ.ปัตตานี ได้กลุ่มเยาวชน นักเรียนฮาฟิซท่องจำอัลกุรอาน และครู อุสตาซ จำนวน 30 โรงเรียน กว่า 600 คน รวมตัวทำการละหมาดขอพรต่อพระเจ้าให้ทรงคุ้มครอง และส่งกำลังใจให้กับชาวมุสลิมที่รัฐปาเลสไตน์ พร้อมแสดงจุดยืนทุกคนไม่เอาสงคราม ขอให้ยุติสงครามโดยเร็วที่สุด