'มินนี่' ปัดเป็นเจ้าแม่เว็บพนัน รับเคยคบหา 'ภาคภูมิ' จริง แต่ไม่รู้จักส่วนตัว 'บิ๊กโจ๊ก'

คดีเว็บพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มตำรวจใกล้ชิดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. โดยเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นางสาวธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือมินนี่ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ เปิดแถลงชี้แจงกรณีปรากฏภาพคู่กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เป็นครั้งแรก หลังปรากฏว่าถ่ายคู่ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งนางสาวมินนี่ ได้ออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหา ที่ว่า เป็นเจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์ แต่ยอมรับว่า เคยมีความสัมพันธ์กับพ.ต.อ.ภาคภูมิจริงในช่วงเวลาหนึ่ง



นางสาวธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือมินนี่ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ พร้อมทนายความ เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ทันทีที่กลับจากประเทศสิงคโปร์ พร้อมเปิดแถลงข่าว



ชี้แจงกรณีปรากฏภาพคู่กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย หนึ่งในแปดตำรวจผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ว่า ยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ตั้งแต่ปี 2563 หลังพบกันในงานเลี้ยง ที่จังหวัดเลย และคบหากันระยะเวลาสั้นๆ ก่อนเลิกราไปเพราะทราบว่าเขามีครอบครัวแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องเงิน นางสาวมินนี่ บอกว่า เคยให้พ.ต.อ.ภาคภูมิ ยืมเงินบ้าง ได้คืนบ้างไม่คืนบ้าง อาจเพราะเงินเดือนตำรวจไม่มาก แต่ส่วนมากคนอื่นจะโอนให้



ส่วนภาพคู่ที่ปรากฏนั้นเป็นภาพที่ถ่ายไว้เอง แต่ถูกตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือศปอส.ตร.ชุดที่ 4 เข้าจับกุมและยึดโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียวไป จึงตั้งคำถามว่าภาพดังกล่าวหลุดไปได้อย่างไร



นอกจากนี้ บอกว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และไม่รู้จักกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด รวมถึงไม่รู้จักบอสตาล เจ้าของสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ พร้อมปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าแม่เว็บพนัน เพราะทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และขายส่งเสื้อผ้าแฟชั่น



ขณะเดียวกัน วันนี้ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ หัวหน้าชุด PCT เปิดเผยหลังจากประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อพิจารณาออกหมายเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินเว็บพนันออนไลน์ของเครือข่าย "มินนี่" มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม



โดยหลังจากที่ชุดสืบสวนได้จับผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว 17 คน และตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้รับเงินจากบัญชีม้า ขณะนี้พบหลักฐานที่จะให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกบุคคล 17 คน และ 1 องค์กร มาให้ข้อมูลในฐานะพยาน เนื่องจากมีการรับเงินจากบัญชีม้าของผู้ต้องหาในคดีนี้



ก่อนหน้านี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินบัญชีม้ามาแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนบ้างแล้วกว่า 10 คน

พนักงานสอบสวน จะมีการออกหมายเรียกเพิ่มเติม 7 คนกับ 1 องค์กร ซึ่งมีรายงานว่า เป็นกลุ่มนักข่าวที่รับเงินมาจากบิ๊กโจ๊กด้วย โดยบุคคลและองค์กรดังกล่าว ได้รับเงินจากบัญชีม้าเป็นรายเดือน และรายครั้ง ครั้งละหลักพันถึงหลักหมื่นบาท แต่มีบางครั้งรับเป็นรายเดือนเป็นประจำ โดยก่อนหน้านี้ได้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินบัญชีม้ามาแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนบ้างแล้วซึ่งก็ได้สอบสวนไว้แล้ว และจะขยายผลต่อไป



ส่วนผู้ต้องหาในคดีตั้งนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความมาต่อสู้คดีนั้น พลตำรวจโทไตรรงค์ ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และดำเนินคดีไปตามข้อมูล พยานหลักฐานทางเทคนิคที่มี รวมถึงเส้นทางการเงิน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด



ขณะที่นายตำรวจติดตาม เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ทำหนังสือลาราชการ 3 วัน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ถึง 29 กันยายนนี้