เรียกสอบเพิ่ม 'ผกก.พญาไท' และคนในงานเลี้ยง หลังกู้วงจรปิด - จ่อแจ้งข้อหา รองสว.อีก 1 นาย

หลังจากภาพวงจรปิดในบ้านกำนัน ได้รับการยืนยันว่าบันทึกภาพส่วนใหญ่ไว้ได้อย่างชัดเจน ก็ทำให้ตำรวจชุดที่คลี่คลายคดีนี้ ทยอยเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบุคคลใน

ภาพวงจรปิด เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนมากขึ้น โดยมีรายงานว่า อาจจะมีตำรวจ ระดับรองสารวัตร ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 นาย



พันตำรวจเอกกฤษฎาพร จงอักษร ผู้กำกับการตำรวจนครบาลพญาไท เดินทางเข้าพบชุดคลี่คลายคดี เพื่อให้ปากคำจากการที่พันตำรวจเอกกฤษฎาพร เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ใน เหตุการณ์ ขณะตำรวจทางหลวงสองนายถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บในงานเลี้ยง และเป็นการสอบปากคำอีกครั้ง หลังจากภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้าน ได้รับการยืนยัน ว่าบันทึก ไว้ ได้อย่างสมบูรณ์ โดยระหว่างเข้าพบพนักงานสอบสวนพันตำรวจเอกกฤษภาพร มีสีหน้าเคร่งเครียดในการให้ปากคำ



นอกจากนี้ ยังมีชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกน้องของกำนันนก เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน จากนั้นก็ถูกตำรวจคุมตัวออกจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แต่ไม่นานหลังจากนั้น ก็กลับเข้ามาพร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก และอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด หลังจากนั้น คนงานในบ้านกำนันนกอีกหนึ่งคน ที่ก่อนหน้านี้ เคยไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนภูธรเมืองนครปฐมไปแล้ว แต่วันนี้ถูกนำตัวมาสอบปากคำที่กองบัญชาการภูธรภาค 7 อีกครั้ง



เช่นเดียวกับครอบครัวกำนันนก ถูกเรียกมาสอบปากคำด้วย ทั้งนายประโยชน์ จันทร์คล้าย พ่อของกำนันนก // รวมถึงแม่ ภรรยา และทนายความของกำนันนก



เป็นที่น่าสังเกตุว่าบุคคลที่ถูกเรียกมาให้ปากคำวันนี้ ส่วนใหญ่เคยถูกสอบปากคำไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่เป็นการสอบปากคำก่อนหน้าที่ ภาพจากกล้องวงจรปิดจะถูกกู้ข้อมูลคืน มาได้ แต่หลังจากที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่าภาพจากกล้องวงจรปิด 13 กล้อง บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด และเปิดเผยว่าคำให้การส่วนใหญ่ขัดแย้ง กับภาพในกล้องวงจรปิดนั้น การเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง จึงอาจได้ข้อมูลใหม่ที่แตกต่างออกไป หลังจากที่มีวัตถุพยานชัดเจนขึ้น



มีรายงานว่า ตำรวจเตรียมที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ตำรวจอีก 1 นาย คือรองสารวัตรตำรวจจราจร ตำรวจภูธรนครชัยศรี โดยหลักฐานคือหลังเกิดเหตุการณ์ยิงกันแล้ว รองสารวัตรรายนี้ ขับนรถกระบะสีดำ นำหน้ารถฟอร์จูเนอร์สีขาวของกำนันนก ที่กำลังหลบหนี โดยก่อนหน้านี้รองสารวัตรจราจรคนดังกล่าว ยอมรับว่าเป็นญาติ กับกำนันนกและระบุว่า วันนั้น ต้องการขับกลับบ้าน แต่เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กับบ้านกำนันนก จึงใช้เส้นทางเดียวกัน



วันนี้พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมข้าราชการตำรวจทางหลวง นิมนต์พระสงฆ์ไปเชิญดวงวิญญาญพันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ และเชิญดวงวิญญาณพันตำรวจเอกวชิรา ยาวไทสงค์ ผู้กำกับการ 2 ตำรวจทางหลวง กลับขึ้นรถประจำตำแหน่ง โดยเชื่อว่าเป็นการนำพากลับไปหาครอบครัว



พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ตอบคำถามสื่อมวลชนส่วนหนึ่งว่า โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เป็นการวางแผนเพื่อสังหารพันตำรวจตรีศิวกร เพราะได้ไล่สอบปากคำทุกคนที่เกิดเหตุ และเมื่อเข้าพื้นที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงแรก ได้เห็นอะไรบางอย่าง จึงเชื่อว่าฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้กำนันนกก่อเหตุ เป็นเพราะคำพูดของพันตำรวจตรีศิวกร ที่พูดกับกำนันนก หลังดื่มสุราแข่งกันว่า "กำนันสู้ผมไม่ได้"



พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังระบุว่าสารวัตรศิว ทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้ายตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ขณะที่พันตำรวจเอกวชิรา ที่เรียกสารวัตรศิวไปในวันนั้น ได้แสดงความ รับผิดชอบ โดยเอาชีวิตตัวเองแลกชีวิตของน้องไปแล้ว และคืนเกิดเหตุเลือดของสารวัตรศิว ได้ติดไปกับตำรวจ 8 ถึง 9 นาย ที่เข้าไปช่วยเหลือ จึงเชื่อว่า เลือดที่ติดไป จะช่วยยืนยันเจตนาของตำรวจ ที่ให้การช่วยเหลือสารวัตรศิวได้อย่างดี