พบสารปนเปื้อนชุมชนใกล้เหมืองโปแตซ ด่านขุนทด หลังชาวบ้านร้องตรวจสอบ

กรณีที่ชาวบ้านที่อ.ด่านขุุนทด จ.นครราชสีมา ร้องให้มีการตรวจสอบการปนเปื้อน ที่เกิดจากการทำเหมืองแร่โปแตซโดยสำนักสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา ส่งตัวอย่างทั้งน้ำใต้ดิน ผิวดิน และดิน 50 ตัวอย่าง ให้สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนตรวจสอบ โดยผลออกมาแล้ว


แม้จะผ่านมานนานเกือบ 6 เดือนแล้วแต่น้ำในสระน้ำข้างวัดหนองไทร ยังคงมีการปนเปื้อนสูงเกินกว่าเครื่องตรวจวัดคุณภาพน้ำ ของสำนักสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะวัดได้


น้ำในสระนี้เป็น 1 ตัวอย่าง ที่ถูกเก็บเพื่อส่งให้ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ตรวจหารสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำ และดิน ในพื้นที่รอบๆโครงการเหมืองแร่โปแตซ ที่ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา


ตัวแทนกรมควบคุมมลพิษ พร้อมผู้บริหารสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ประชุมร่วมหลังผลการตรวจตัวอย่างที่เก็บมาจากพื้นที่พิพาท ระหว่างชาวบ้าน กับ โครงการเหมืองแร่โปแตซ ซึ่งสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการตรวจเพื่อความโปร่งใส


จากการตรวจสอบตัวอย่าง หลายจุดพบการปนเปื้อนในอัตราที่สูงมาก จึงถูกแทนค่าด้วยสีแดง จุดที่มีระดับการปนเปื้อนปานกลางถูกแทนค่าด้วยสีเหลือง แท่งกราฟสีแดง ซึ่งหมายถึงการปนเปื้อนในปริมาณที่สูง การกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ติดกับชุมชน ซึ่งติดกับพื้นที่กับชนของราการเหมืองแร่โปแตซ


ผู้อำนวยการ สำนักสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ผลตรวจที่ได้ในครั้งจะเป็นหลักฐาน และข้อมูลที่จะนำไปใช้เพื่อการแก้ไขปัญหา ทั้งกับชาวบ้าน และด้านสิ่งแวดล้อม


รศ.ดร.สาโรช รุจิวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ระบุว่า ทุกฝ่ายจะต้องยอมรับข้อมูลที่เป็นจริงเพื่อการแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพ


สำหรับการตรวจวัดหารสารปนเปื้อนครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์กับสิ่งแวดล้อม หลังจากก่อนหน้านี้ เคยทำงานร่วมกับหน่วยงานด้วยความยุติธรรมในการไขคดีอาชญากรรมมาแล้ว