สังคม

กรอ.สั่งปรับแผนบำบัดน้ำเสียปนเปื้อนของบริษัทวิน โพรเสส ระยอง หลังพบน้ำรั่วซึมกระทบพื้นที่ชาวบ้าน

โดย panisa_p

3 พ.ค. 2566

203 views

ชาวบ้านใกล้เคียงกับบริษัท วิน โพรเสส จังหวัดระยอง ร้องเรียนอีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบจากน้ำเสียที่คาดว่าไหลซึมออกจากบ่อของบริษัท ที่อยู่ระหว่างบำบัดตามคำสั่งศาล แล้วลงไปผสมในบ่อเลี้ยงปลา จนเกิดความเสียหาย ขณะที่อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการบำบัดน้ำเสีย และนำสารเคมีของเหลวไปกำจัด ซึ่งตามคำสั่งศาลต้องแล้วเสร็จภายในมิถุนายนนี้ แต่ดูเหมือนว่างานคืบหน้าไปร้อยละ 20 เท่านั้น



บ่อปลาของครอบครัวนายสาโรจน์ สุวรรณวงศ์ ได้รับความเสียหายจากการที่มีน้ำปนเปื้อนสารเคมี รั่วซึมมาปะปนในบ่อ จนปลาที่เลี้ยงไว้บางส่วนตาย แม้จะมีบางตัวเหลือรอด แต่ก็ไม่กล้านำไปบริโภค เพราะผลตรวจน้ำพบว่ามีสารเคมีบางอย่างปนเปื้อน



ถึงแม้ว่าจะนี่จะเป็นบ่อเล็กขนาด 3 คูณ 6 เมตร ลึกราว 4 เมตร แต่สะท้อนถึงปัญหาใหญ่เพราะบ่อนี้อยู่ติดกับบริษัทวิน โพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่มีปัญหาเรื่องสารเคมีปนเปื้อนแหล่งน้ำมานานนับ 10 ปี และมีข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้ว่า ก็คือว่า ขณะนี้บริษัทเอส เค อินเตอร์ เคมีคอล ซึ่งเป็นคู่สัญญาที่บริษัทวินโพรเสส ว่าจ้างให้บำบัดน้ำเสียตามคำสั่งศาลนั้น ได้ขุดบ่อใหม่เพื่อรองรับน้ำที่ผ่านการบำบัด แล้วเติมออกซิเจนให้ได้ค่าปลอดภัยก่อนระบายออกสู่ธรรมชาติ แต่ปรากฎน้ำในบ่อนั้น อาจรั่วซึมลงใต้ดินแล้วปนเปื้อนในบ่อของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง



ตอนนี้เจ้าของบ่อไม่ได้ห่วงเรื่องความเสียหายกับปลาที่เลี้ยงอย่างเดียว แต่ห่วงเรื่องผลกระทบจากน้ำเสียที่จะปนเปื้อนไปเรื่อยในละแวกนี้ และตอนนี้ได้ข้อสรุปว่าจะสูบน้ำออกจากบ่อนี้หมดแล้วสังเกตุว่า น้ำปนเปื้อนสารเคมีนั้นปะปนด้วยวิธีการซึมมาจากใต้ดินหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น บริษัท SK อินเตอร์เคมีคอลที่รับบำบัดน้ำเสียของบริษัทวินโพรเสส ต้องแก้ไขให้



ที่จริงแล้วบ่อบนที่ดินของนายสาโรจน์ เพิ่งเกิดปัญหาเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาแต่ปัญหาที่พบมานานับ 10 ปีของชาวบ้านหนองพะวา คือการที่น้ำเสียสารเคมีในบ่อของบริษัทวินโพรเสส ปนเปื้อนสภาพธรรมชาติใกล้เคียงจนพืชผลการเกษตรเสียหาย เป็นคดีที่ชาวบ้านฟ้องแพ่งกว่า 20 ล้านบาทมาแล้ว ซึ่งรวมถึงบ่อดินของนายเทียบ สมานนึก ซึ่งบ่อน้ำทำการเกษตร ถูกน้ำเสียสารเคมีไหลเข้าบ่อไม่เคยขาด แต่จะสูบน้ำออกจากบ่อจนแห้งแล้วแต่ไม่นานก็มีน้ำสารเคมีไหลมาปะปนอีก



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมรองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษและอีกหลายหน่วยงานลงพื้นที่วันนี้วิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ น้ำเสียในบ่อกักเก็บบ่อที่ 1 ซึ่งมีน้ำเสียสภาพเป็นกรดเข้มข้น และมีปริมาณมากที่สุดในนี้ จะไหลซึมไปยังบ่ออื่นๆ ที่อยู่ติดกัน และต่อให้สูบน้ำจากบ่ออื่นๆ ไปบำบัด เพื่อรอปล่อยออกสู่ธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีน้ำปนเปื้อนสารเคมีไหลซึมไปปะปนไม่หยุด จึงต้องให้บริษัทเอส เค อินเตอร์เคมิคอล ซึ่งเป็นคู่สัญญาที่วินโพรเสสว่าจ้างให้บำบัดน้ำเสียเหล่านี้ ต้องปรับแผนใหม่ และต้องให้ทันก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ตามคำสั่ง



เดิมศาลสั่งให้วินโพรเสสต้องกำจัด และบำบัดสารเคมีทั้งอาคารโรงงานและน้ำเสียให้แล้วเสร็จภายในมิถุนายนนี้ โดยให้ภาครัฐกำกับดูแล แต่ดูเหมือนว่าข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้มาใหม่ อาจซับซ้อนขึ้น การที่ยังมีสารเคมีมีฤทธิ์เป็นกรด เข้มข้น ไหลลงปะปนในบ่อน้ำไม่หยุด และรั่วซึมไปยังพื้นที่ชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียง ทำให้สันนิษฐานว่า อาจมีการลักลอบฝังกลบสารเคมีของเหลวในจุดอื่นๆของโรงงานอีกหรือไม่ จนเป็นสาเหตุให้ของเหลวเหล่านั้นรั่วซึมตามทิศทางน้ำใต้ดินไม่หยุด



ซึ่งข้อสันนิษฐานนี้ไม่ไกลเกินจริง เพราะข้อมูลจากมูลนิธิบูรณะนิเวศน์ที่ติดตามเรื่องนี้มากกว่า 10 ปี และผลการขุดบ่อของบริษัทเอส เค อินเตอร์เคมีคอล ก็บ่งบอกว่า พ้นเส้นทางน้ำซึมใต้ดินที่เจือปนสารเคมีไหลซึมไม่หยุด อย่างไรก็ตาม กรมโรงงานยืนยันว่าจะต้องบำบัดในแนวทางที่แถลงต่อศาลให้แล้วเสร็จก่อน หากพบปัญหาใหม่ ก็เป็นไปได้ทีจะแถลงต่อศาล หรือยื่นคำร้องให้ผู้พิพากษาลงตรวจสอบสภาพจริงของปัญหา เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาใหม่อีกครั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News