สังคม

แนวร่วม ปชต. แถลง 4 ข้อ ขอ 8 พรรคร่วมผนึกกำลังเหนียวแน่น - 'คาร์ม็อบ' เรียกร้อง ผบ.เหล่าทัพลาออกจาก ส.ว.

โดย parichat_p

16 ก.ค. 2566

62 views

ความเคลื่อนไหวของแนวร่วมประชาธิปไตย ที่จัดกิจกรรม carmob Respect myvote เรียกร้องให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่เป็น ส.ว.ลาออก รวมถึง ส.ว.ทั้ง 250 คนเปิดทางการเลือกนายกรัฐมนตรีจากเสียงของประชาชน รวมถึงเรียกร้องให้ 8 พรรคร่วมรัฐบาลจับมือกันให้แน่นจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ นายอานนท์ นำภา ประกาศหากพรรคไหนแตกแถวก่อนเป็นเผด็จการ ท่ามกลางกระแสข่าวหากไม่ชัดเจนก่อนวันที่ 19 กรกฏาคม อาจมีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


แนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์ที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร หลังจบกิจกรรม Carmob:Respect My Vote เรียกร้องไป ยังรัฐสภาและประชาชน 4 ข้อ ขอประณามสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สว.ที่ไม่ลงมติไปตามฉันทามติเสียงส่วนใหญ่ของคนให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้ตั้งรัฐบาล จึงเรียกร้องให้ ส.ว. ลาออกจาก ตำแหน่งทั้งหมด และให้รัฐสภาที่เหลืออยู่ทำการลงมติไปตามเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ และเรียกร้องให้ 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ผนึกกำลังกันให้เหนียวแน่น ตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และเรียกร้องประชาชนทั่วประเทศออกมาต่อสู้กับแนวร่วมประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย จนกว่า จะบรรลุเป้าหมาย

นายอานนท์ นำภา ย้ำในเวทีปราศัย เชื่อว่าหาก 8 พรรคจับมือกันเหนียวแน่น จะไม่เปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย รักษาฐานอำนาจของเผด็จการ


สำหรับกิจกรรม Carmob:Respect My Vote วันนี้นัดรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังกองบัญชาการกองทัพบก ยื่นใบลาออกให้พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารบก ก่อนจะเดินทางไปกองบัญชาการกองทัพเรือ ยื่นหนังสือลาออกให้ พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และจุดที่ 3 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นใบลาออกให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติ์ประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทั้ง 3 จุดเป็นการยื่นเป็นสัญลักษณ์ไปยังผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึง พลอากาศเอกอลงกรณ์ วัณณรก ผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่ได้ลากิจ เมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม ไม่มาเลือกนายกรัฐมนตรี ถือว่าเจตนาไม่ทำหน้าที่ เช่นเดียวกับ ส.ว.ที่งดออกเสียง


นายอานนท์ เปิดเผยว่าจากการติดตามท่าทีของประชาชนแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ต่างเห็นว่า พรรคก้าวไกลไม่จำเป็นต้องยอมถอยลดเพดานการแก้ไขมาตรา 112 เพื่อเปิดทางให้พรรคการเมือง และ ส.ว.เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่าไม่ใช่เงื่อนไขที่แท้จริง และเห็นด้วยที่พรรคก้าวไกล ยืนยันที่จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกมาตรา 272 แม้จะทำให้เวลาในการได้รัฐบาลใหม่ช้าลง หรือหากจะมีความพยายามเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย แข่งกันนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในวันที่ 19 กรกฏาคมนี้ ก็คงต้องยอมให้มีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะเชื่อว่าจะอยู่ไม่นาน


สำหรับความเคลื่อนไหว 8 พรรคร่วมรัฐบาล จะมีการประชุมร่วมกันในวันพรุ่งนี้ 17 กรกฏาคม ซึ่งมีรายงานว่าจะเป็นการหารือกันภายใน ท่ามกลางแรงกดดันที่จะต้องหาข้อสรุปว่า พรรคก้าวไกล สามารถหาเสียงส.ว.มาสนับสนุนให้เลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งที่ 2 วันที่ 19 กรกฏาคมนี้ได้เพิ่มหรือไม่ และจะทำอย่างไร หากมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สวุรรณ มาชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เปิดทางการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย


ซึ่งต้องหารือทางเลือกให้กับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงกรณีที่มีความเห็นว่าไม่สามารถเสนอชื่อ นายพิธา เป็นญัตติซ้ำได้ ทั้ง 8 พรรคจะหาทางออกอย่างไร ซึ่งอาจต้องเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แล้วเปิดฟรีโหวตหรือไม่ แต่ทางพรรคก้าวไกลยังยืนยันตามโรดแมป ที่จะต้องเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ควบคู่ไปกับการเสนอยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งมีรายงานข่าวด้วยว่าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย การประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลวันพรุ่งนี้ จึงต้องจับตาว่า ทั้ง 8 พรรคยังยืนยันจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียง


โดยการนำของพรรคก้าวไกล หรือไม่ หรือหากปล่อยให้มีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร แม้จะมีเสียงข้างน้อย 188 เสียง แต่มีโอกาสได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ จะรวบรวม ส.ส.ได้ในภายหลังให้ได้เสียงข้างมาก หรือพรรคก้าวไกลจะยอมเปิดทางให้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ให้ได้รับเลือกนายกรัฐมนตรี แต่หากเป็นการฟรีโหวต แล้วมีพรรคอื่นมายกมือสนับสนุน ก็จะกลายเป็นการพลิกขั้ว ให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นรัฐบาล 279 เสียงที่มีพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรพลังสังคมใหม่ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคท้องที่ไทย และพรรคใหม่ ร่วมจัดตั้งรัฐบาลเป็นเสียงข้างมากได้เช่นกัน ส่วนพรรคก้าวไกล และพรรคที่เหลือกลายไปเป็นฝ่ายค้าน

คุณอาจสนใจ

Related News