เลือกตั้งและการเมือง

"ผบ.เหล่าทัพ" ตบเท้าแจงงบทหาร วงเงิน 198,562.9 ล้านบาท

โดย nutda_t

17 ม.ค. 2567

49 views

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 198,562.9 ล้านบาท

โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้แก่ พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม , พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) , พล.อ. เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) , พล.ร.อ. อดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.อ.อ. พันธุ์ภักดีพัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เข้าร่วมชี้แจงภาพรวมงบประมาณของหน่วยงานภายใต้กำกับดูแล และงบของเหล่าทัพต่างๆ อย่างพร้อมเพรียง ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกมธ.วิสามัญฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม

ซึ่งปีนี้ต้องจับตาในส่วนของงบประมาณด้านกำลังพลที่เพิ่มขึ้น 3,800 ล้านบาท ซึ่งสวนทางกับแผนการปฏิรูปกองทัพ เรื่องการลดกำลังพล

พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ชี้แจงว่า เพื่อให้การดำเนินกิจการภายใต้แผนปฏิบัติงบประมาณประจำปี 2567 ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า มีศักยภาพทางทหารทัดเทียมกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2570 แม้ว่าในงบประมาณปีนี้กระทรวงกลาโหมจะได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น หากเทียบกับสัดส่วน GDP ถือว่าลดลงและกระทรวงกลาโหม อยู่ในอันดับที่ 5 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองลงมาจาก เมียนมา สิงคโปร์ บรูไน กัมพูชา ตามลำดับ

สำหรับงบในส่วนของกำลังพลที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวได้รวมวงเงิน งบประมาณในการเลื่อนชั้นเงินเดือน ประจำปี ตามสิทธิข้าราชการ และการปรับวุฒิข้าราชการไว้ด้วย ซึ่งกระทรวงกลาโหม ได้ตั้งงบประมาณแตกต่างกับข้าราชการพลเรือน ที่จะตั้งงบประมาณในการเลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อเป็นบำเหน็จประจำปีไว้ที่งบกลาง ในรายการเลื่อนเงินเดือนและปรับวุฒิข้าราชการ โดยเพิ่ม 10% ภายใน 2 ปี โดยคุณวุฒิปริญญาตรีปรับ จาก 15,000 บาท เป็น 18,000 บาท

พลเอก สนิธชนก กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านความมั่นคงไม่แน่นอน ความขัดแย้งภูมิภาคเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างประเทศมหาอำนาจในชาติพันธมิตรของแต่ละฝ่าย นอกจากนั้น ปัญหาในทะเลจีนใต้ที่เกิดจากพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลและข้อพิพาทต่างๆ รวมถึงการแสดงกำลังของแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยไม่อาจปฏิเสธผลกระทบทางตรงและทางอ้อมได้ จึงมีการจัดเตรียมกำลังกองทัพให้เตรียมความพร้อมให้สามารถรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนปฏิบัติภารกิจงานตามหน้าที่อย่างดีที่สุด มุ่งเน้นการซ่อมบำรุงการปรับปรุงยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่เพื่อยืดอายุการใช้งานต่อไป ทำให้ลดงบประมาณ เพราะหากไม่สามารถซ่อมบำรุง เนื่องจากไม่คุ้มค่า ไม่มีชิ้นส่วนอะไหล่ จึงจะจัดหาใหม่เพื่อทดแทน

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหม ยังต้องสนองนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้กองทัพเป็นคุณกาลีหลักทางด้านความมั่นคงเสร็จของรัฐ เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทุกโอกาส

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ผบ.เหล่าทัพ

คุณอาจสนใจ

Related News