'พม.' ประสาน 'เตรียมพัฒน์ฯ ' ปรึกษาหาทางออกกรณี 'หยก' วันพรุ่งนี้

กรรมการสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์เรื่องสิทธิเด็ก กรณีของหยก เยาวชนวัย 15 ปี ไม่มีชื่อในระบบการศึกษาของรัฐ โดยระบุว่าการพิจารณาของทุกฝ่ายต้อง คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก และควรเร่งหาทางออกกับทุกฝ่าย เพื่อให้หยกอยู่ในระบบการศึกษา ล่าสุดโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ก็ออกหนังสือชี้แจงผู้ปกครองนักเรียนว่า โรงเรียน จะประชุมร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในวันพรุ่งนี้


โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ออกหนังสือรายงานความคืบหน้า กรณีของหยก เยาวชนหญิงวัย 15 ปี ถึงผู้ปกครองนักเรียน โดยใจความว่าตามที่โรงเรียนออกแถลง การณ์ฉบับที่ 2 เมื่อ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา กรณีที่หยก ไม่มีสภาพการเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการนั้น ขอแจ้งให้ผู้ปกครองทราบว่าโรงเรียน ได้รับการ ประสานจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นศูนย์กลางเพื่อร่วมปรึกษาหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว โดยจะประชุมร่วมกัน วันพรุ่งนี้ เวลา 12 นาฬิกา 30 นาที ที่กระทรวงฯ



ผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการ และปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน สหวิชาชีพ ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรุงเทพฯ เขต 2 ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเตรียมอุดม ศึกษาพัฒนาการ นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกพัฒนาการ และตัวแทนผู้ปกครอง


ขณะที่เมื่อเช้านี้ หยก แต่งกายด้วยชุดไปรเวท ถักเปียและเปลี่ยนสีผมใหม่แล้ว เดินเข้าโรงเรียนผ่านจุดสแกนพร้อมกับนักเรียนคนอื่นๆ ขณะที่ภายในโรงเรียน มีตำรวจหญิงสังกัด อารักขาควบคุมฝูงชน หรือกองร้อยน้ำหวานเข้าไปในพื้นที่โรงเรียน โดยเดินทางมาด้วยรถผู้ต้องหา และเข้าไปจอดในโรงเรียนด้วย โดยวันนี้ที่โรงเรียนก็มีการหารือกัน ระหว่างคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน และตัวแทนจากพรรคก้าวไกล ระหว่างนี้โรงเรียนชี้แจงเรื่องที่มีตำรวจหญิงควบคุมฝูงชนอยู่ในโรงเรียนว่า เป็นการเข้าไปดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของหยก


กระทั่งเวลา 16 นาฬิกา 15 นาที ที่เป็นเวลาเลิกเรียน หยกได้เดินออกจากโรงเรียน และเธอระบุว่าต้องการคำตอบจากสถานศึกษาว่า เธอพ้นสภาพจากการเป็นนักเรียน ด้วยเหตุผลใด หรือเพราะเธอแสดงออกถึงแนวคิดเรื่องการแต่งกาย



เมื่อบ่ายวันนี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์ มีใจความสำคัญส่วนหนึ่งว่า กสม.ยืนยันสิทธิทางการศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่รัฐต้องประกันให้เด็กทุกคน อันสอดคล้องและเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่ประเทศไทยเป็นภาคี และมีพันธกรณีต้องปฎิบัติตาม การพิจารณาและดำเนินการใดๆ ของโรงเรียนและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังระบุว่าคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด ต้องเร่งหาทางออกร่วม กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ "หยก" ได้อยู่ในระบบการศึกษา