'หยก' ได้เข้าเรียน ยอมรับเครียดเรื่องส่งงาน กองร้อยน้ำหวานเข้าสังเกตการณ์ - ป้าย 'เสรีเครื่องแต่งกาย' โผล่หนุน

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) เวลาเช้า ก่อน 08.00 น. น.ส.ธนลภย์ หรือหยก แต่งกายด้วยชุดไปรเวท ถักเปียเรียบร้อย แต่เปลี่ยนสีผมใหม่ เดินเข้าโรงเรียนผ่านจุดสแกน พร้อมกับนักเรียนคนอื่นๆ เข้าไปได้ อย่างไม่มีปัญหา

โดย หยกให้สัมภาษณ์ ยืนยันที่จะเข้าเรียน เพราะการมอบตัวได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา และทางกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็ยืนยันว่า สิทธิเข้าเรียนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตนจึงมาเรียนปกติ และย้ำถึงการเรียกร้อง เสรีทรงผม และสีผม รวมถึงเครื่องแต่งกาย ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน พร้อมขอบคุณสังคมที่มาถกเถียงกันเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ยืนยันที่จะเข้าเรียน ใช่ไหม

น.ส.ธนลภย์กล่าวว่า เรายืนยันการเข้าเรียน เพราะว่าเรามีสิทธิมาที่นี่ ทาง กสม.ก็บอกว่าเรามีสิทธิเรียน วันนี้ตนจะมาเรียนปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางโรงเรียนได้มีการทำประชาพิจารณ์เรื่องการแต่งกาย และทรงผม เพื่อทำกฎระเบียบใหม่ร่วมกัน จะยึดตามกฎระเบียบนั้นหรือไม่

หยก กล่าวว่า ต้องเป็นกฎระเบียบที่นักเรียนมีส่วนร่วมจริงๆ เพราะกฎต้องเป็นที่สังคมยอมรับ  และคนที่ได้ใช้ต้องมีส่วนร่วมในการออกแบบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าทุกคนเห็นด้วยกับการแต่งชุดนักเรียน

หยก กล่าวว่า ก็ต้องรับตามนั้น ถ้านักเรียนทุกคนได้เลือกจริง ที่ตนไม่ได้ต้องการใส่ เพราะตนคิดว่า ใครอยากใส่ชุดนักเรียนก็ใส่ ใครอยากใส่ชุดไปรเวตก็ใส่ โดยยึดพื้นฐานตามความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะตอบอย่างไรกับกระแสสังคมตอนนี้

หยก กล่าวว่า ขอบคุณที่มาโต้แย้ง และมาถกเถียงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฟ้องศาลปกครอง เอาผิดโรงเรียนหรือไม่

หยก กล่าวว่า ยังไม่อยากฟ้องเท่าไหร่

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรอยากฝากบอกพรรคก้าวไกลหรือไม่

หยก กล่าวว่า “ก่อนที่พรรคก้าวไกลจะออกแถลงการณ์ หนูก็ปีนโรงเรียนมา 3 วัน แล้ว ก็ค่อนข้างทำงานช้านิดนึง ส่วนการแต่งกายและทรงผมของนักเรียน ก็เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของก้าวไกลนะคะ”

--------------

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) ภายในโรงเรียน มีตำรวจหญิงสังกัดอารักขาควบคุมฝูงชน หรือกองร้อยน้ำหวาน เข้าไปในพื้นที่โรงเรียน

ทั้งนี้ ภายในโรงเรียน ได้มีการหารือกัน ระหว่าง...

• คณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน
• นายวิโรจน์ ลักขณาดิศร (ตัวแทนพรรคก้าวไกล)
• น.ส.เบญจา แสงจันทร์ (ตัวแทนพรรคก้าวไกล)
• น.ส.เนติพร หรือบุ้ง นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ในฐานะผู้ปกครองของหยกด้วย
  

น.ส.เบญจา กล่าวว่า ได้หารือถึงแนวทางให้หยกได้เรียนต่อ ซึ่งได้เสนอความเห็นกันในแต่ละฝ่าย ซึ่งได้ขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนร่วมหารือด้วย แต่ติดต่อ ผอ.ไม่ได้ ขณะที่ต้นสังกัดของโรงเรียน อยากให้ได้ข้อสรุปก่อน แล้วจึงเสนอความเห็นไป

ส่วนที่ ตำรวจหญิงควบคุมฝูงชน ประมาณ 10 นาย เข้าไปในโรงเรียน ทางโรงเรียนชี้แจงว่า เป็นการเข้าไปดูแลความเรียบร้อยเท่านั้น เพราะกังวลว่าหยกจะไม่ปลอดภัย

--------------

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษา Human Rights Watch ประจำประเทศไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า

“ล่ม! ผู้อำนวยการไม่เจรจากับผู้อุปการะ ตัวแทนก้าวไกล และกรรมการโรงเรียน เพื่อช่วยให้ หยกกลับเข้ามาเรียน”

“ที่โรงเรียนแถลงว่า หยกขาดสถานภาพเป็นนักเรียน เพราะไม่มีผู้ปกครองมามอบตัวลงทะเบียนนั้น ถือว่ากีดกันเลือกปฏิบัติ ผิดกฎหมายไทย และหลักสากล”
--------------

ด้านบุ้ง ผู้ปกครองหยก ซึ่งร่วมหารือด้วย บอกว่า

ยังไม่ได้ข้อสรุปถึงสถานะนักเรียนของหยก ต้องรอให้โรงเรียนหาทางออก ซึ่งมีสมาคมผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาร่วมพูดคุย ส่วนนายวิโรจน์ขอเป็นคนกลาง คุยกับทางโรงเรียนให้

วันนี้เดินทางมา บุ้งมารอดีๆ อยากคุยตั้งแต่วันแรก แต่ก็ยังไม่ได้คุยกับ ผอ. รร. น้องสอบได้ควรได้เรียน ไม่ควรต้องเอาแง่ทางกฏหมายมากลั่นแกล้ง

ซึ่งมีแต่ตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาที่มาร่วมพูดคุย แต่เขาไม่ค่อยฟังสิ่งที่อยากเสนอ แต่ก็ไม่เป็นไร เราอยากให้น้องได้เรียนต่อ เพราะน้องหยกยังยืนยันว่าอยากเรียนที่นี่ ส่วนการเรียนของน้องหยกวันนี้ค่อนข้างดี เพราะมีวิชาที่น้องชอบหลายวิชา

เรื่องการทำผิดระเบียบเรื่องชุดนักเรียน น้องพร้อมที่จะยอมรับ หากทางโรงเรียนจะตัดคะแนน แต่แค่อยากเรียกร้องให้สังคมได้เห็นความคิดเห็นของน้อง

--------------

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) เวลา 16.15 น. หยกเดินออกมาจากโรงเรียนหลังเลิกเรียน และทำการบ้านเสร็จ โดยมี บุ้ง เนติพร ผู้ดูแล และเพื่อน มารับ และให้สัมภาษณ์ว่า บรรยากาศการเรียนวันนี้ก็ปกติดี ส่วน ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ที่มาพูดคุยกับทางคณะกรรมการสถานศึกษา เป็นเรื่องที่ดี แสดงว่าทำตามที่ได้หาเสียงไว้

หยก ตั้งข้อสงสัยว่า ก่อนหน้านี้ยังเข้าเรียน และมีชื่อส่งงานได้ตามปกติ แต่อยู่ๆ ก็มีปัญหา โรงเรียนออกแถลงการณ์ไม่ได้เป็นนักเรียนแล้ว

ยอมรับว่า ตอนนี้เครียด กังวลถึงคะแนนที่ส่งงาน จะได้คะแนนเหมือนเดิมไหม เพราะไม่มีชื่อในระบบแล้ว แต่ก็จะยืนยันว่า ยังมาเรียน และทำงานส่งตามปกติไปก่อน

อยากถามโรงเรียนถึงสาเหตุที่ทำให้เธอพ้นสภาพนักเรียน เป็นเพราะเธอได้แสดงออกถึงแนวคิด เรื่องทรงผม เครื่องแต่งกาย หรือสาเหตุใด

จนกระทั่งถึงวันนี้ ตัวเองยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางสถานศึกษา แต่ขอยืนยันในสิทธิ์ของตนเองว่า สอบเข้าเรียนที่นี่ได้ จะขอเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ต่อ และเรื่องกฎระเบียบของโรงเรียนนั้น ยังคงคิดเช่นเดิมว่า การออกกฎระเบียบข้อปฏิบัติของนักเรียน ไม่ควรเป็นเรื่องที่ละเมิดสิทธิ์ในร่างกาย เพราะการบังคับแบบนั้นเป็นอำนาจนิยม ซึ่งในโรงเรียนเองก็มีเพื่อนๆ หลายคนที่มีแนวคิดคล้ายกัน

--------------

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) เวลา 13.30 น. ทวิตเตอร์แอคเคาท์ “เกียมพัฒนาประชาธิปไตย” ทวีตภาพป้ายผ้าที่ระบุข้อความว่า “เสรีเครื่องแต่งกาย” ที่ถูกแขวนอยู่ภายในทางเชื่อม 2 อาคารเรียนสีชมพู ภายในโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ

และเขียนข้อความว่า “นักเรียนในโรงเรียนเตรียมพัฒ แขวนป้ายผ้าเรียกร้อง “เสรีเครื่องแต่งกาย” สนับสนุนข้อเรียกร้องของหยก #saveหยก #ใต้เตียงเกียมพัฒ”

ผ่านไป 12 นาที แอคเคาท์นี้ได้โพสต์ภาพ ชายคนหนึ่งแต่งกายชุดสีกากีเข้ามาเก็บป้ายผ้านี้ และเขียนข้อความว่า “ถูกครูปลดลงทันที ก่อนจะตามมาด้วยผู้บริหาร และครูคนอื่นอีก รวม 3-4 คน พยายามตามหานักเรียนผู้แขวนป้าย ด้วยการถามหาจากนักเรียนรอบข้างที่อยู่บริเวณนั้น”
--------------

ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ออกหนังสือกรณีหยกว่า ในวานนี้ (19 มิ.ย. 66) โรงเรียนได้รับการประสานจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นศูนย์กลาง เพื่อร่วมปรึกษาหาแนวทางการแก้ปัญหา โดยประชุมร่วมกันในวันนี้ (20 มิ.ย. 66)   เวลา 12.30 น. ที่อาคารสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยมีหลายหน่วยงาน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย

1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

2. ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

3. อธิบดีกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน

4. สหวิชาชีพ

5. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 6

6. ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

7. ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

8. นายกสมาคมผู้ปกครอง และครูโรงเรียนตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และตัวแทนผู้ปกครอง

--------------

วานนี้ (19 มิ.ย. 66) นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ได้โพสต์ว่า

“uniform uniformity

เครื่องแบบ

(adj) ที่เป็นแบบเดียวกัน

(vt) ทำให้เป็นหน่วยเดียวกัน

(adj) สม่ำเสมอ

การทำให้เป็นหน่วยเดียวกัน,

See also: การรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน”

ทั้งยังโพสต์รูปภาพที่มีคำระบุว่า

“ชุดนักเรียน คือความเท่าเทียม

ชุดนักเรียน ไม่ใช่การกดขี่

ชุดนักเรียน คือปกป้อง คุ้มครองนักเรียน

ชุดนักเรียน ไม่ได้ทำให้เด็กไม่เก่ง ไม่คิด อย่าเอาแต่ใจ”

--------------

น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯพรรคไทยสร้างไทย ได้แชร์ภาพของนายสาธิต พร้อมระบุว่า

“ชุดนักเรียน คือความเท่าเทียม ของคนมีเงินซื้อชุดให้ลูกใส่

ชุดนักเรียน ไม่ใช่การกดขี่ แต่บังคับให้เด็ก ต้องใส่

ชุดนักเรียน ปกป้อง คุ้มครอง นักเรียน ได้ยังไง มันคือเสื้อเกราะ? เสื้อยันต์?

ชุดนักเรียน ไม่ได้ทำให้เด็กไม่เก่ง และก็ไม่ได้ทำให้เด็กเก่งด้วยเช่นกัน

เวลาที่เขาบอก ใส่ชุดอะไรก็ได้ ก็คือ เด็กสามารถใส่ชุดนักเรียน ไปเรียนได้เช่นกัน

ไม่มีใครบังคับใคร ตกลงผู้ใหญ่หรือเด็กที่ #เอาแต่ใจ”

--------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LfTLBFa72Cw