เครือข่ายปชช.รวมตัวค้าน ขอประทานเหมืองแร่สายบุรี หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม

พื้นที่กว่า 152 ไร่ บริเวณเขาเตราะปลิง ม.4 ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่มีการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ เป็นพื้นที่ภูเขา ที่รัศมี 500 เมตร จะกระทบกับบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ม.4 ต.ทุ่งคล้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชาวพุทธ จึงห่วงผลกระทบทั้งเรื่องฝุ่น เสียง มลภาวะ และภัยคุกคามความปลอดภัย



เวทีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี จัดขึ้นที่เทศบาลเตระบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีวันนี้ จึงถูกคัดค้านจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเครือข่ายประชาชนพิทักษ์เขาเตราะปลิง ที่มาชูป้ายคัดค้าน และระหว่างอุตสาหกรรมจังหวัด และบริษัทผู้ขอสัมปทานชี้แจง ทางเครือข่ายประชาชนพิทักษ์เขาเตราะปลิง เห็นว่าการชี้แจงใช้เครื่องเสียงเบา ไม่ได้ยินอย่างทั่วถึง ทำให้ชาวบ้านไม่ได้ข้อมูลที่ชัดเจน รวมถึงกระบวนการเปิดเวทีความคิดเห็นที่ประชาชนรู้ล่วงหน้าเพียงไม่กี่วัน ไม่เคยมีข้อมูลความรู้ใดๆมาก่อน จึงขอให้ยุติการเปิดเวทีรับฟัง และได้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อแสดงจุดยืน



ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนจึงลงจากเวที โดยนายสมมาตรา บารา นายอำเภอสายบุรี และ นายซาอุดี เซ็งกะแซรี หัวหน้าส่วนอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้ขอให้นายกัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ ส.ส.พรรคเป็นธรรม ที่มาร่วมสังเกตุการณ์ ช่วยเจรจากับเครือข่ายประชาชนฯ โดยขอให้รับฟังการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ และขอให้เจ้าหน้าที่เปิดพื้นที่ให้ฝ่ายเครือข่ายประชาชนพิทักษ์เขาเตราะปลิง ได้ชี้แจงเหตุผลด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ประกาศยุติการเปิดเวที และชี้แจงว่าการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนวันนี้เป็นไปตามขั้นตอน ที่เอกชนได้ยื่นขอประทานบัตร เมื่อเดือนธันวาคม 2565 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี จึงปิดประกาศให้ทราบภายใน 30 วันและเปิดเวที่รับฟังความเห็นภายใน 60 วันเมื่อวันนี้ยุติก็ต้องจัดใหม่และทางเอกชนต้องทำรายงานมาตราการผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือ EIA ด้วย



ขณะที่เครือข่ายประชาชนพิทักษ์เขาเตราะปลิง ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ยกเลิกการขอประทานบัตรเหมืองแร่ และให้ทุกฝ่ายร่วมติดตามการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการคุกคามจากผู้มีอิทธิพล



นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่าไม่เห็นด้วย แต่ที่ผ่านมาไม่กล้าให้ความเห็น เพราะกลัวภัยคุกคาม เลขาธิการพรรคเป็นธรรม และพรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะร่วมติดตามให้เกิดความโปร่งใส และให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม



รวมถึงนักวิชาการ และสมาคมลุ่มน้ำสายบุรี ก็เป็นห่วงว่ากระบวนการที่ไม่โปร่งใสจะส่งผลกระทบจากประชาชน โดยเฉพาะกับกลุ่มเปราะบาง



สำหรับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการเหมืองแร่ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ในลักษณะเดียวกันและเวทีก็ล่ม เพราะประชาชนไม่เห็นด้วย และยังมีโครงการเหมืองบาตูฆอ ที่จ.ยะลา ที่รัฐบาลใหม่ต้องรับมือกับการผลักดันโครงการที่กระทบกับสิ่งแวดล้อมในช่วงสุญญากาศทางการเมืองด้วย