สังคม

'ศรีสุวรรณ-สนธิญา' ยื่นกกต. ยุบ 'ก้าวไกล-เพื่อไทย' ปมครอบงำชิง 'ประธานสภาฯ'

โดย parichat_p

26 พ.ค. 2566

67 views

ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ให้ยุบพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ที่สืบเนื่องจากการชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ด้วย กล่าวหาว่าถูกบุคคลภายนอกครอบงำ



เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พิจารณา หลังเคยมายื่นหนังสือให้ กกต.ตรวจสอบพฤติกรรมของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ / นายปิยบุตร แสงกนกกุล / และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ว่าครอบงำหรือชี้นำพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 28 และ มาตรา 29 แห่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หรือไม่



โดยกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรตำแหน่งที่พรรคก้าวไกลเสียไปไม่ได้เป็นอันขาด พร้อมอธิบายเหตุผลมากมาย ซึ่งต่อมาเป็นเหตุให้ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลต่างออกมาให้สัมภาษณ์และหรือโพสต์ข้อความแสดงความเห็น เพื่อยืนยันว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เช่น นายรังสิมันต์ โรม / น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล / นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล



นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่ว่าที่ ส.ส.คนใดจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของส.ส.ทั้ง 500 คนที่ประชาชนเลือกให้มาเป็น ส.ส. แล้วเข้าไปเลือกกันเอง ว่าใครจะมีความเหมาะสม โดยไม่จำต้องมีใครมาชี้นำ แต่การที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ออกมาโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะดังกล่าว จะทำให้สังคมมองไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากการพยายามที่จะชี้นำความคิดและการกระทำของเหล่าว่าที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ให้ต้องช่วยกันผลักดันหรือกดดันให้พรรคร่วมต่าง ๆ ยินยอมให้ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้น



นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ยังได้ออกมาโพสต์สำทับถึงข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า ก้าวไกลต้องการเป็นประธานสภา เพื่อผลักดันวาระก้าวหน้าในสังคม อันชี้ให้เห็นว่า บุคคลทั้งสอง ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคก้าวไกล กลับมีพฤติการณ์หรือกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระทั้งโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมหรือไม่



จึงต้องนำพยานหลักฐานมายื่นเพิ่มเติมให้ กกต. เพื่อนำไปตรวจสอบ และวินิจฉัยประกอบคำร้องเดิมที่เคยชี้เบาะแสไว้แล้ว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปจนถึงที่สุด หาก กกต.วินิจฉัยว่าเป็นไปตามการชี้เบาะแส ก็สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคที่ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวได้ ตาม ม.92(3) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560



ขณะเดียวกัน นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นหนังสือต่อกกต. ด้วย เพื่อให้ตรวจสอบและวินิจฉัยพฤติกรรมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่าฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 45 อันเป็นเหตุให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) หรือไม่



นายสนธิญา ระบุว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ซึ่งมีตำแหน่งทางการเมืองในพรรคเพื่อไทย เปิดเผย สู่สาธารณะว่า เดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบิดาที่ต่างประเทศนั้น เกรงว่าจะเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับผลประโยชน์ หรือส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวายขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 45



โดยตามปกติ หาก น.ส.แพทองธาร ไม่มีตำแหน่งใดๆในพรรคเพื่อไทยการไปเยี่ยมบิดามารดาในต่างประเทศถือว่าเป็นเรื่องปกติและสามารถพึงกระทำได้ แต่การที่ น.ส.แพทองธาร ไปเยี่ยมนายทักษิณที่ต่างประเทศและมีการโพสต์ลงสู่สาธารณะนั้น เกรงว่าไม่เหมาะสมและอาจจะขัดต่อกฎหมายดังกล่าว เว้นแต่ น.ส.แพรทองธาร เดินทางไปเยี่ยมบิดาเป็นการส่วนตัวและไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน ก็ย่อมไม่ผิดใด ๆ



จึงนำเรื่องดังกล่าวมายื่นให้ทาง กกต. วินิจฉัย ซึ่งหาก กกต. เห็นว่ามีความผิดจริงตามมาตรา 45 ก็ขอให้ กกต. ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสั่งให้ยุบพรรคเพื่อไทย ตามมาตรา 92 (3) ต่อไป


สำหรับความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 45 บัญญัติว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองกระทําการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทําการอันเป็นการทําลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ


หลังจากนายสนธิญา ยื่นหนังสือถึง กกต. เสร็จสิ้นลง คณะนักธุรกิจ นำโดยนายธเนตร วงษา อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนักธุรกิจก็ ยื่นหนังสือถึงประธานกกต.ให้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาให้เร็วที่สุดเพื่อประเทศไทยจะได้เดินหน้าในการทำธุรกิจ พร้อมกับชูป้ายสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย


นายธเนตร กล่าวว่า หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว จะทำให้ประเทศเดินหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ

คุณอาจสนใจ

Related News