สังคม

พนักงานสอบสวน 7 จังหวัด ถูกเรียกประชุมคลี่คลายคดีวางยาพิษ - ตร.ยันยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 13 คน

โดย parichat_p

28 เม.ย. 2566

74 views

เกาะติดคดีการตายของเหยื่อ 13 คน ที่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าอาจเป็นฝีมือการวางยาพิษ ของ นางสรารัตน์ หรือแอม อดีตภรรยาของนายระดับระดับรองผู้กำกับการแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวน จาก 7 จังหวัด ที่มีคดีการตายเชื่อมโยงถึงกัน ถูกเรียก มาประชุมเพื่อนำข้อมูลมาสรุปเป็นแนวทางคลี่คลายคดี โดยยืนยันว่ายอดผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 13 คน โดยมี 2 คน ที่มีผลชันสูตรชัดเจนว่า ได้รับไซยาไนด์ ในร่างกาย ในปริมาณที่ถึงแก่ชีวิต


พนักงานสอบสวนจากท้องที่ 7 จังหวัด ที่มีคดีการตายของเหยื่อ 13 คน เชื่อมโยงกับนางสรารัตน์ หรือแอม ซึ่งเป็นทั้งผู้ต้องหาและเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีเหล่านี้ ได้นำข้อมูลมาประชุมร่วมกันที่สโมสรตำรวจเพื่อนำไปสู่การคลี่คลายในอีกหลายคดี


โดย 7 จังหวัดที่มีคดีการตายเชื่อมโยงถึงกันเฉพาะที่อยู่ในสาระบบของตำรวจขณะนี้ ประกอบด้วยจังหวัดนครปฐม มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดจำนวน 6 ราย / รองมาจังหวัดราชบุรี 2 ราย / จังหวัดกาญจนบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และรอดชีวิต 1 ราย / ที่เหลือคือจังหวัดเพชรบุรี/อุดรธานี/สมุทรสาคร และมุกดาหาร จังหวัดละ 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้ ในตอนนี้ 13 ราย รอดชีวิต 1 ราย


ผู้รับผิดชอบคดีประกอบด้วย ตำรวจกองปราบปรามรับผิดชอบคดีการตายของเหยื่อชื่อก้อย ที่จังหวัดราชบุรี ส่วนคดีอื่นๆยังอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจท้องที่นั้นๆ และแนวทางการสืบสวนและสอบสวนตอนนี้มุ่งไปที่พยานแวดล้อมของผู้ตายกับผู้ต้องสงสัย / แพทย์ผู้รักษาและผู้ชันสูตรศพ ทั้งที่ผ่าและไม่ได้ผ่า ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงข้อมูลอื่นๆเช่นเส้นทางการเงินของผู้ตาย ผู้ต้องสงสัยและผู้ใกล้ชิดกับผู้ต้องสงสัย


พลตำรวจตรีนำเกียรติ ธีรโรจนพงษ์ ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี ยืนยันว่ายังไม่ออกหมายจับใครเพิ่ม แต่ยืนยันได้ว่าการสอบปากคำนายกอล์ฟ ลูกน้องคนสนิทของนายแด้ ที่เสียชีวิตด้วยนั้น ถือว่าเป็นประโยชน์มาก และระบุด้วยว่ากรณีของเหยื่อชื่อก้อย และสารวัตรปู เป็นผู้เสียชีวิต 2 ราย จากจำนวน 13 ที่มีผลตรวจชัดเจนว่าได้รับไซยา ไนด์ในร่างกาย ในปริมาณที่ทำให้เสียชีวิต ส่วนจะกี่มิลลิกรัมถือเป็นข้อมูลในสำนวน


ส่วนรองผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า กรณีที่ผู้ตายหลายราย ที่ไม่ได้ตรวจชันสูตรว่ามีไซยาไนด์ในร่างกายหรือไม่ ก็ยังมีช่องทางดำเนินคดีต่อได้ โดยเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน ที่จะรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างให้แน่นหนา สำหรับนำสู้คดี


ขณะที่การสอบปากคำอดีตสามี ที่เป็นรองผู้กำกับการแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรีนั้น รองผู้บังคับการกองปราบปรามระบุว่า ประโยชน์ต่อคดีและผู้ให้ข้อมูล สามารถชี้แจงอย่างไร ก็ได้ แต่พนักงานสอบสวนก็มีสิทธิ์ที่จะให้น้ำหนักว่าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใดและจะเรียกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกในภายหลัง


วันนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบรถยนต์ 4 คัน ที่นางแอมเคยเกี่ยวข้องทั้งในฐานะผู้ขับขี่ หรือเป็นผู้โดยสาร โดย 2 คันแรก อยู่ที่จังหวัดราชบุรี รถโตโยต้าสีออส สีบรอนเป็นรถของนางแอม ที่ใช้ขับพา เหยื่อชื่อก้อย" ไปปล่อยปลา ที่อ.จอมบึง และอีกหนึ่งคัน เป็นรถโตโยต้า ยาริส ของ "ก้อย" ที่ขับมาหา "แอม" ผลปรากฎว่าเจอ "ไซยาไนด์" ที่รถของโตโยต้า วีออส ของแอม แต่ในรถของก้อย อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์


รถยนต์คันที่ 3 คือ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ที่ นางแอม ใช้ร่วมกับอดีตสามีที่เป็นตำรวจ อยู่ที่จังหวัดนครปฐม ในคันนี้พบไซยาไนด์ที่คอนโซลรถด้ายขวา


ส่วนคันที่ 4 เป็นฟอร์จูนเนอร์สีขาว ที่ "แอม" ขับไปศูนย์ราชการ เมื่อวันที่ 25 เมษายน ก่อนจะถูกตำรวจกองปราบจับได้ คันนี้ยังไม่พบไซยาไนด์ แต่พบว่าสวมทะเบียนปลอม ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลผู้ครองครองอย่างละเอียด

คุณอาจสนใจ