สังคม
สธ.เชื่อหลังสงกรานต์มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้น
โดย attayuth_b
17 เม.ย. 2566
101 views
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาหลายที่เริ่มกลับมาจัดกิจกรรมกันแบบปกติทั้งสาดน้ำสงกรานต์และการพบปะสังสรรค์ ทำให้กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์ถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19ที่จะเพิ่มขึ้น โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า เบื้องต้นได้ออก3 มาตรการขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในช่วงสัปดาห์ต่อจากนี้
กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน 2566 พบ ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 435 คน เฉลี่ยราย 62 คนต่อวัน ส่วนยอดผู้เสียชีวิต เฉลี่ย 2 คนต่อสัปดาห์
โดยสัปดาห์ก่อนหน้า คือช่วง 2-8 เมษายน มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 168 คน เฉลี่ย 24 คนต่อวัน ซึ่งถือว่า สัปดาห์นี้มีผู้ป่วยมากกว่าถึง 267 คน หรือ กว่าเท่าตัว ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเท่ากับสัปดาห์ล่าสุด 2 ราย
สำหรับยอดผู้ป่วยโควิด 19 สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา อยู่ที่ 5,483 คน เสียชีวิตสะสม 273 คน ส่วนยอดผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 คน และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 คน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีการกลับมารวมตัวทำกิจกรรม โดยเฉพาะการเล่นน้ำสงกรานต์ในหลายพื้นที่ และการสังสรรค์ในครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย จึงคาดว่า จะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้นหลังสงกรานต์ นายแพทย์โอภาส ได้แนะนำให้สังเกตอาการตัวเองในช่วง 7 วัน และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัว หากมีอาการป่วยก็ให้ตรวจ ATK ทันที
ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขได้วางมาตรการ สำหรับประชาชน 3 ข้อคือ 1.ทุกคนต้องฉีดวัคซีนโควิด19 2.สวมหน้ากากในที่สาธารณะและ 3.ให้ตรวจ ATK เมื่อป่วยมีอาการทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ
ส่วนสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในตอนนี้ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในไทย ยังอยู่ในตระกูลโอมิครอน โดยสายพันธุ์หลักเป็นสายพันธุ์ลูกผสม XBB และพบ XBB.1.5 และ XBB.1.9.1 มีแนวโน้มสูงขึ้น
ส่วนสายพันธุ์ XBB.1.16 ที่พบในอินเดีย จะพบมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกันทั่วโลก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเชื่อว่า XBB.1.16 มีแนวโน้มระบาดแทนที่สายพันธุ์อื่นๆ ต่อไป แต่ยังไม่พบความรุนแรงหรือหลบหลีกภูมิคุ้มกันมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
ล่าสุดศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยข้อมูลที่ทางศูนย์ฯ ได้ติดตามจากจีเสส (GISAID) ที่รวบรวมสถานการณ์โควิด 19 จากทั่วโลก โดยพบว่า ขณะนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อโอมิครอน ลูกผสม XBB.1.16 จำนวน 8 คน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดในอินเดีย
เบื้องต้นมีการรายงานจากต่างประเทศถึงอาการสำคัญของสายพันธุ์นี้ คือ ในผู้ป่วยเด็กจะพบอาการเยื่อบุตาอักเสบ ที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัส ไม่ใช่เชื้อแบคทีเรีย ฉะนั้นจะไม่มีหนอง และลักษณะของการอักเสบก็จะแตกต่างกัน ดังนั้นอาจต้องสังเกตอาการเยื่อบุตาอักเสบจากไวรัสเพิ่มเติมด้วย
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ระบุว่า อาการที่สำคัญ คือ ผู้ป่วยจะเริ่มจากมีไข้สูง อาการหวัดและไอ จากนั้นจะเกิดเยื่อบุตาอักเสบ คันตา ขี้ตาเหนียว ลืมเปลือกตาไม่ขึ้น แต่ไม่มีหนอง เพราะไม่ได้ติดเชื้อแบคทีเรีย
โดยข้อมูลที่สำคัญคือประเทศที่พบสายพันธุ์ XBB.1.16 ระบาดเป็นจำนวนมากอย่างอินเดีย ก็ยังไม่พบผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เพิ่มขึ้น
สำหรับไทยได้ส่งข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิดในช่วง 1 กุมภาพันธ์ ถึง16 เมษายนที่ผ่านมา ให้ "จีเสส (GISAID)" รวมแล้ว 410 ตัวอย่าง พบมีโอมิครอน 12 สายพันธุ์ที่พบมากในไทย