'ส.ว.อุปกิต' โต้ข่าวเข้ามอบตัว ไม่ได้เป็นการชิงมอบตัว ย้ำไปชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์

ความคืบหน้าคดีนายทุนมินลัต และเครือข่ายยาเสพติด ที่ก่อนหน้านี้ตำรวจออกหมายจับไปแล้ว 9 ราย จาก10 ราย ส่วนรายที่10 ที่ตำรวจชุดจับกุม เคยไปขอศาลอนุมัติหมายจับมาแล้วแต่ถูกเรียกกลับไปเพิกถอนในวันเดียวกัน คือ กรณีของนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีความคืบหน้าจากเมื่อวานนี้ หลังจากที่นายอุปกิต ไปพบกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 แล้ว ถูกแจ้ง 3 ข้อหา คือ เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและ เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ปรากฎว่า วันนี้ก็มีความเคลื่อนไหวจากหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการชี้แจงเพิ่มเติมของนายอุปกิต เอง


นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยถึงการเข้าพบพนักงานสอบสวน เมื่อวานนี้ ว่าไม่ได้เป็นการชิงมอบตัว แต่เข้าไปให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนตามสิทธิโดยชอบ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนที่พนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา สมคบกันฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และมีส่วนร่วมใน องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ นั้น ไม่มีข้อหาค้ายาเสพติดแต่อย่างใด


นอกจากนี้ นายอุปกิต ระบุว่า ได้นำพยานหลักฐานที่เป็นเส้นทางการเงินเทียบเคียงกับคดี นาย ดีน ยัง จุลธุระ ลูกเขยไปชี้แจงให้เห็นว่า ในช่วงปี 2563 ขณะสถานการณ์โควิด- 19 ระบาดหนัก มีการปิดด่านท่าขี้เหล็ก ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ตามปกตินั้น นอกจาก บริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป (พีแอนด์อี) ต้องโอนเงินผ่านผู้รับบริการโอนเงินฝั่งเมียนมา เพื่อชำระค่าไฟฟ้าให้กับ กฟภ. แล้ว ยังมีบริษัทชั้นนำของไทยที่เข้าไปทำธุรกิจในเมียนมาอีกหลายบริษัท ใช้บริการรับโอนเงินจากบัญชีผู้รับบริการโอนเงินเจ้าเดียวกันและผู้รับโอนเงินนั้น ก็ใช้บัญชีเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าเป็นบัญชีเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ทำไมไม่มีการกล่าวโทษด้วย


ทางด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า นายอุปกิต ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนรายละเอียดต่างๆในคดี ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่มั่นใจในหลักฐานที่มี และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย // ในทางคดี ก็ถือว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาที่จะเข้ามาแสดงความบริสุทธิใจ จึงไม่จำเป็นต้องควบคุมตัว ซึ่งจะส่งผลดีโดยไม่ต้องประกันตัว ซึ่งในคดีนี้จะมีการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 17 เมษายนนี้ หากผู้ถูกกล่าวหากระทำผิด ก็จะต้องรับโทษเป็น 2 เท่าเนื่องจากเป็นสมาชิกวุฒิสภา


ทางด้านนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล บอกว่า คดีนายอุปกิต แม้จะมีความคืบหน้า แต่ไม่น่าพอใจนัก เพราะ การแจ้งหาในเบื้องต้นยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงทั้งหมด คือแม้จะมีข้อหาสมคบกันฟอกเงิน แต่ข้อหาที่ ส.ว.อุปกิตควรได้รับจริงๆ คือข้อหาเดียวกันกับที่ทุน มิน ลัต และพวก ถูกแจ้งไปก่อนหน้านี้ จึงควรมีการดำเนินคดีไปในลักษณะเดียวกันมากกว่า จึงคาดหวังว่าอัยการสูงสุด จะต้องมีคำสั่งให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อ ส.ว.อุปกิต ในข้อหาสมคบกันค้ายาเสพติด และสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีความร้ายแรงด้วย


อีกด้านหนึ่ง วันนี้ ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจเรตำรวจแห่งชาติ ที่ มีพลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน ได้เรียก ให้พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพญาไท ที่เป็นชุดจับกุมและ ไปขออนุมัติหมายจับนายอุปกิตก่อนหน้านี้ ชี้แจง กรณีขอออกหมายจับและถูกเพิกถอนหมายจับ ในวันเดียวกัน โดยทางพ.ต.ท.มานะพงษ์ บอกว่า ไม่หนักใจ ยืนยันว่าจะต่อสู้ในเรื่องนี้ต่อไป ส่วนพยานหลักฐาน ไม่ขอเปิดเผยเพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวนการสอบสวน / / ทางด้าน จเรตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ทางจเรตำรวจแห่งชาติ จะสอบสวน เพียงผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 และพันตำรวจโทมานะพงษ์เท่านั้น จะไม่ก้าวล่วงไปถึงอำนาจศาล