สังคม

เปิดเบื้องลึกขบวนการค้าไม้กฤษณาข้ามชาติ เป็นเครือข่ายเดียวกับขบวนการค้าไม้-ค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ

โดย parichat_p

25 มี.ค. 2566

168 views

หลังจากตามเเกะรอยมานานกว่า 2 เดือน ล่าสุด ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ ออกลาดตระเวน พบชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ถูกจับกุมพร้อมของกลางเป็นอุปกรณ์เเละชิ้นไม้กฤษณา น้ำหนักรวมเกือบ 200 กิโลกรัม จากการสอบสวนขยายผล ทราบว่าทั้งหมดเป็นชาวเวียดนามเครือข่ายเดียวกับขบวนการค้าไม้เเละค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ที่เเฝงตัวเคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคอาเซียน รักษาราชการเเทนอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งให้ขยายผลต่อเนื่องตั้งเเต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะนายทุนใหญ่ที่คอยสั่งการอยู่เบื้องหลัง


นี่คือบางส่วนจากของกลางทั้งหมด ที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ที่ชัยภูมิ ตรวจยึดได้ หลังสายข่าวเเจ้งพบความเคลื่อนไหวของขบวนการค้าไม้กฤษณาข้ามชาติ ซึ่งมีบางส่วนหลบหนีการจับกุมครั้งก่อนไปได้ / เกิดย่ามใจ นำรถยนต์ขนเครื่องมือเเละอุปกรณ์ ลักลอบกลับเข้ามาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกครั้ง


เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน เเละซุ่มดูความเคลื่อนไหว กระทั่งพบชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ จึงเเสดงจังเข้าจับกุมเเละสกัดกั้นทันที ตรวจค้นพบทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม ใช้หนังสือเดินทางเเฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป เป้าหมายคือการตัดโค่น เพื่อสกัดเอาชิ้นไม้กฤษณาซึ่งถูกใช้อุตสาหกรรมน้ำหอม ส่งขายให้นายทุนตามออร์เดอร์ เเละทรัพยากรของประเทศไทย ก็กำลังตกเป็นเป้าหมายของขบวนการนี้


การสืบสวนพบว่า กลุ่มพรานป่าที่จับได้ เป็นเครือข่ายเดียวกับขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ที่กระจายตัวเคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะไทยกับมาเลเซีย


ข้อมูลจากฝ่ายพัฒนาฐานข้อมูลอาชญากรรมสัตว์ป่า พบว่า ตั้งเเต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน มีชาวเวียดนามจากจังหวัดก๋วงบิณห์ เข้ามาทำไม้กฤษณา เเละบางส่วนเข้ามาล่าเเละค้าเสือโคร่งในประเทศไทย มากถึง 41 ราย นอกจากไทยยังเเฝงตัวเข้าไปล่าในป่าของมาเลเซีย 23 ราย


คนกลุ่มนี้ใช้หนังสือเดินทาง เข้า-ออกตามช่องทางปกติ หลัก ๆ 3 จุด ก็คือด่านตม.สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ทั้ง 3 เเห่ง อ้างเป็นนักท่องเที่ยว เเต่มีเครือข่ายที่จัดเตรียมอุปกรณ์ไว้รอ นั่งรถโดยสารจากด่านกระจายไปลงตามจุดต่าง ๆ / ส่วนรถยนต์ พบว่าเป็นรถที่ซื้อเเบบโอนลอย เอาไว้ใช้เดินทางในประเทศไทย กำลังขยายผลต่อว่า มีคนไทยหรือใครอยู่เกี่ยวข้องในขบวนการอีกหรือไม่


รักษาราชการเเทนอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งขยายผลต่อทันที จากนี้จะประสานกับทุกฝ่าย ทั้งตม. กระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานข้อมูลกับทางการเวียดนาม ตำรวจอินเตอร์โพล รวมทั้งอัยการสูงสุด เพื่อรับเป๋นคดีนอกราชอาณาจักร เกี่ยวโยงกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

คุณอาจสนใจ