สังคม
เร่งหาสาเหตุ 'กระบะพวงมาลัยล็อก' ชนขอบทางด่วนทำเด็กร่วงดับ หมอแนะใช้คาร์ซีทป้องกันเด็กกระเด็น
โดย panisa_p
21 ก.พ. 2566
135 views
ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถกระบะป้ายแดงพุ่งชนขอบทางด่วน เหตุการณ์นี้มีเด็ก 6 ขวบ กระเด็นตกลงมาเสียชีวิต ล่าสุด ตำรวจนัดผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบประเด็นที่พ่อของเด็กอ้างว่า สาเหตุเกิดจากปัญหาพวงมาลัยล็อก ขณะเเพทย์รามาธิบดีแนะนำว่า ผู้ปกครองไม่ควรอุ้มนั่งตัก เเละควรจะใช้คาร์ซีทเมื่อมีเด็กโดยสารในรถ
นี่เป็นภาพจากกล้องหน้ารถคันเกิดเหตุ บันทึกภาพขณะรถกระบะคันนี้ กำลังวิ่งอยู่บนทางด่วน เเต่หลังจากเร่งเครื่องแซงรถบรรทุกได้ จู่ ๆ ก็หักเข้าเลนซ้าย แล้วก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่รถคันนี้จะพุ่งชนขอบทางด้านซ้ายอย่างแรง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของผู้หญิง ที่ตะโกนเรียกชื่อลูกชาย แรงกระแทกทำให้ลูกชายวัย 6 ขวบ ที่หลับอยู่เบาะหลัง กระเด็นทะลุกระจกตกทางด่วนเสียชีวิต เหตุเกิดบนทางด่วนกาญจนภิเษก มุ่งหน้าบางนา ช่วงใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
พันตำรวจโท ประจวบ แขตสันเทียะ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.สำโรงใต้ เปิดเผยความคืบหน้า โดยบอกว่าตอนนี้มีภาพจากกล้องหน้ารถคันเกิดเหตุ พอที่จะให้ข้อมูลได้ว่า "รถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วไม่มาก" แต่ยังไม่สามารถบอกสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร เเละตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาคนขับรถ เพราะต้องรอตรวจสอบรถยนต์คันเกิดเหตุอย่างละเอียดก่อน
ด้านพันตำรวจเอก สมชาย ชูแก้ว ผู้กำกับการสภ.สำโรงใต้ บอกว่า ได้นัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมการขนส่งทางบก กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากโตโยต้า มาร่วมตรวจสอบสภาพรถคันที่เกิดอุบัติเหตุในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อพิสูจน์ว่าสภาพรถเป็นไปตามที่ผู้ขับขี่ให้การว่า"พวงมาลัยล็อก จนเกิดอุบัติเหตุจริงหรือไม่"
ขณะที่ รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัย เพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้จำลองเหตุการณ์โดยเอาเด็กมานั่งคาร์ซีท พร้อมอธิบายว่า การคาดเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ ไม่ได้ออกแบบให้คาดพอดีกับความสูงของเด็กที่ต่ำกว่า 135 เซนติเมตร จึงมีความจำเป็นต้องใช้เบาะเสริม คาร์ซีท หรือที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงจากอุบัติเหตุ
โดย รศ.นพ.อดิศักดิ์ เเสดงความเสียกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเละย้ำว่าที่ผ่านมา ทางศูนย์วิจัยฯได้รณรงค์การใช้คาร์ซีทมาตลอด แม้จะมีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว ในพ.ร.บ.จราจรทางบก วึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า "เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี รวมถึงผู้โดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องจัดที่นั่งคาร์ซีทให้ไม่ว่าตอนใดของรถ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท" แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนในการบังคับใช้ เพราะยังอยู่ระหว่างการร่างข้อกฎหมายรองรับส่วนอื่น ๆ จึงมองว่าระหว่างนี้ เพื่อความปลอดภัย ผู้ปกครองควรใช้คาร์ซีทเพื่อลดความสูญเสีย
เพราะถ้าดูจากอุบัติเหตุล่าสุด จะเห็นว่ารถที่ขับมาด้วยความเร็วแล้วเกิดการกระแทก ผู้โดยสารภายในรถจะมีแรงขับ ทำให้เกิดการกระเด็นเท่าความเร็วรถ อย่างเคสเด็ก 6 ขวบ หากนั่งในคาร์ซีท เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่มีแรงกระแทกรุนแรง ร่างกายของเด็ก ก็จะยังคงถูกรัดไว้กับที่นั่ง ไม่พุ่งหรือกระเด็นออกนอกรถ
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ยังแนะนำผู้ปกครอง ไม่ควรอุ้มเด็กนั่งตักในเบาะหน้า เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ ระยะห่างของตัวเด็กกับคอนโทรลรถ น้อยกว่า 25 เซนติเมตร จะเกิดการกระแทก ถ้าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรนั่งเบาะหลังเสมอ ผลการวิจัยพบว่า จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตได้ถึง 2 เท่า
ส่วนรถยนต์ 4 ที่นั่ง สามารถติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยได้ทุกรุ่น ทั้งกระบะ 4 ประตู และรถเก๋ง แต่รถกระบะแคป แนะนำให้ติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในส่วนเบาะหน้า แต่ต้องไม่มีถุงลมนิรภัยในจุดนั้น เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ ถุงลมทำงาน จะเกิดการกระแทกได้ ขณะผลสำรวจพฤติกรรมการโดยสาร พบว่า มีเด็กไทยเพียงร้อยละ 3.46 ที่ใช้คาร์ซีท
แท็กที่เกี่ยวข้อง หาสาเหตุ ,กระบะพวงมาลัยล็อก ,รถชนขอบทางด่วน ,คาร์ซีท ,เด็กกระเด็นตกรถ