อธิบดีกรมโรงงานฯ เตรียมแถลงวิธีแก้ปัญหาเคมี 'บ่อขยะศรีเทพ' ต่อศาล หลังชาวบ้านยังคงได้รับผลกระทบ

ข่าว 3 มิติ ยังเกาะติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลงพื้นที่อำเภอศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามการบำบัดแก้ไขปัญหาจากกลิ่นเหม็นฉุนในอากาศและน้ำใต้ดินที่ปนเปื้อนสารเคมี ที่ซึมจากบ่อฝังกลบขยะของบริษัทเอกอุทัย สาขาศรีเทพ



โดยก่อนหน้านี้ชาวบ้านฟ้องร้องศาลปกครองจนศาลมีคำพิพากษาให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 กำกับดูแลผู้ถูกฟ้องที่ 5 คือบริษัทเอกอุทัย ให้เร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว แต่ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 6 เดือน ชาวบ้านยังได้รับผลกระทบ ล่าสุด อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะแถลงต่อศาล เพื่อเสนอมาตรการใหม่ ที่จะบำบัดแก้ไขใหม่ให้สำเร็จผลมากกว่านี้



บ่อบาดาลนี้อยู่บนที่ดินของนางลำไย คำแสน ชาวบ้านม่วงชุม ต.คลองกระจัง อ.ศรีเทพ เพชรบูรณ์ เป็นบ่อที่มีน้ำไหลได้ดี แต่ก็ใช้งานไม่ได้แล้วเพราะมีสารไฮโดรคาร์บอนปนเปื้อน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมระบุว่า สารชนิดนี้ไม่มีอยู่ในธรรมชาติ แต่มาจากการปนเปื้อนของสารเคมี



บ้านของนางลำไยอยู่ติดกับบริษัทเอกอุทัย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการหลุมฝังกลบของเสียและรีไซเคิลในพื้นที่นี้ ตั้งแต่ปี 2561 และไม่นานจากนั้น ชาวบ้านก็ร้องเรียนว่า ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรงในอากาศและบ่อน้ำก็มีกลิ่นเหม็น บ่อบาดาลอื่น ๆ ก็เช่นกัน แม้กลิ่นจากน้ำบาดาลบางจุดที่สูบขึ้นมาจะมีกลิ่นเหม็นฉุนไม่มาก แต่ผลตรวจตัวอย่างน้ำก็พบการปนเปื้อน ส่วนกลิ่นในอากาศก็รุนแรงตามทิศทางลม



วันนี้ชาวบ้านม่วงชุม ได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องถึงอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งลงพื้นที่ไปพบชาวบ้าน ให้เร่งแก้ปัญหามลพิษจากกลิ่นเหม็นฉุนของบ่อฝังกลบขยะที่ลอยฟุ้งในอากาศ และน้ำใต้ดินที่ปนเปื้อนสารเคมี โดยสะท้อนว่าหลังจากศาลปกครองมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้ง 5 นำโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้กำกับดูแลแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว แต่ผ่านมา 6 เดือนแล้ว ผลกระทบนี้ก็ยังมีอยู่



บริษัทกำจัดขยะเอกอุทัย จำกัด สาขาเพชรบูรณ์ ตั้งกิจการที่นี่ราวปี 2561 ล่าสุดวันนี้ จะมีบ่อบำบัดแบบฝังกลบอยู่ 3 บ่อ บ่อที่ 1 ซึ่งมีสภาพคล้ายภูเขาสูง มีกองดิน ทับถมและร่องรอยผ้าใบคลุม ส่วนบ่อที่ 2 มีการฝังกลบไปแล้ว ระดับดินปากบ่อเสมอดินพื้นทางเดินและบ่อที่ 3 มองเห็นมีน้ำสีเหลืองแดง คล้ายสีสนิมอยู่ในบ่อ โรงงานแจ้งว่า เป็นบ่อขุดใหม่ เพื่อนำดินไปฝังกลบบ่อ 2 และทำทางเดินอื่น ๆ ซึ่งน้ำที่ขังอยู่ โรงงานแจ้งว่าเป็นน้ำฝนที่ชะล้างดินใกล้เคียงลงปนเปื้อน จึงมีค่า PH ไม่เป็นกลาง



เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมปีที่แล้ว ศาลปกครองนครสวรรค์พิพากษาให้กรมโรงงานอุตสาหาหกรรม ผู้ถูกฟ้องที่ 1 และผู้ถูกฟ้องที่ 2 คืออุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ควบคุมกำกับดูแลบริษัทเอกอุทัย จำกัด สาขาศรีเทพ ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 5 ให้ระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญจากการประกอบกิจการภายใน 30 วัน นับจากที่คำพิพากษาถึงที่สุด โดยผู้ถูกฟ้องที่ 3 และ 4 คือ อบต.และนายกอบต.คลองกระจัง ต้องร่วมจัดทำแผนฟื้นฟูแหล่งน้ำผิวดินและใต้ดินตามแผม โดยให้ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดรายงานการ ดำเนินการต่อศาล จนกว่าเหตุเดือดร้อนรำคาญจะหมดไป



และหลังจากอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมลงพื้นที่วันนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าแผนบำบัดฟื้นฟูจากผู้แทนบริษัท และสำรวจระบบบำบัดฟื้นฟูน้ำเสีย น้ำชะล้างกากขยะของบ่อฝังกลบในพื้นที่ เห็นว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่การแก้ไขจะสำเร็จโดยเร็ว จึงเป็นไปได้ที่จะแถลงต่อศาลถึงแนวทางแก้ไขใหม่ให้ โดยความเห็นชอบของทุกฝ่าย ซึ่งภาครัฐจะดำเนินการ แต่บริษัทต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย



ก่อนหน้านี้มีการเก็บตัวอย่างน้ำใต้ดินใกล้บ่อฝังกลบไปตรวสอบพบว่า ปนเปื้อนด้วยสารโลหะหนัก และสารอินทรีย์ระเหยง่าย VOCs ในระดับที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน คุณภาพน้ำใต้ดิน ตามประกาศของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 20 และสารกลุ่ม VOC ที่ตรวจพบ มี 2 ตัวที่เป็นสารก่อมะเร็ง คือไวนิลคลอไรด์ และเบนซีน ซึ่งกรมควบคุมมลพิษก็เคยตรวจพบสารไวนิลคลอไรด์และเบนซีน ในบ่อสังเกตุการณ์ของโรงงานมาแล้ว จนนำไปสู่การฟ้องต่อศาลเพื่อให้เร่งแก้ไขดังกล่าว