สังคม
เผยผลตรวจ DNA 'น้องต่อ' เด็กหายปริศนา เป็นลูก 'ลุงแจ้' ไม่ใช่ 'พุด' - มูลนิธิกระจกเงา ตั้งข้อสังเกต มุ่งเป้าคนในพื้นที่
โดย panwilai_c
17 ก.พ. 2566
433 views
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน ที่หายไปจากครอบครัวอย่างมีปริศนา ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่วันนี้กลับพบข้อมูลที่ซับซ้อนขึ้นไปกว่า เมื่อผลชันสูตรดีเอ็นเอพบว่า นายพุดไม่ใช่พ่อของน้องต่อ แต่ดีเอ็นเอบ่งชี้ว่าคนที่เป็นพ่อของน้องต่อ คือนายแจ้ ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อนางสาวนิ่ม ที่เป็นแม่ของน้องต่อ
ตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ผลตรวจดีเอ็นเอระหว่างน้องต่อ กับนายแจ้ ที่เป็นเพื่อนบ้านและเป็นเพื่อนกับตาน้องต่อ ตรงกัน หรือสัมพันธ์กันในเชิงพ่อ-ลูก จึงเท่ากับว่าน้องต่อเป็นลูกที่เกิดจากนางสาวนิ่ม กับนายแจ้ ไม่ใช่นายพุดที่อยู่กินเป็นสามีภรรยากันตอนนี้ โดยนายแจ้มีฐานะเป็นเพื่อนกับพ่อและแม่ของนางสาวนิ่ม ตอนนี้สื่อมวลชนพยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงจากนายแจ้ แต่ก็ติดต่อไม่ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ที่ผลดีเอ็นเอ จะถูกเปิดเผยออกมานั้น ตำรวจได้เชิญนายพุดและนิ่ม ไปเข้าเครื่องจับเท็จ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจสอบประกอบการ ดำเนินการสืบสวนสอบสวน และยังประสานสหวิชาชีพ แพทย์ และผู้ควบคุมเครื่อง รวมถึงพนักงานสอบสวน เพื่อให้แพทย์เป็นผู้ซักถาม และจะสังเกตปฏิกิริยาของร่างกาย ที่ตอบสนองต่อคำถามนั้น เพื่อจะนำมาประเมิน และประกอบสำนวนคดีของพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีการสอบถามเกี่ยวกับร่องรอยบาดแผลบนใบหน้า รวมถึงรอยใบมีดโกนที่บาดศีรษะของเด็กด้วย
ขณะที่ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 20 นาฬิกาที่ผ่านมา ตั้งข้อสังเกต 13 ข้อว่า
ข้อ 1.น้องต่อหายจากบ้านไป นับถึงวันนี้ ครบ 13 วัน
ข้อ 2 ลักษณะเด็กและสภาพพื้นที่ต้องมีบุคคลพาเด็กไป
ข้อ 3 บุคคลที่อาจก่อเหตุได้ คือคนในบ้านที่เด็กอาศัยอยู่ หรือคนในพื้นที่ ที่ทราบลักษณะที่พักอาศัยของเด็ก และรู้เส้นทางในพื้นที่
ข้อ 4 บุคคลตามข้อ 3 อยู่ในการสืบสวนของตำรวจ
ข้อ 5 ไม่มีแก๊งหรือองค์กรอาชญากรรมที่ลักพาตัวเด็กในประเทศไทย ในรอบ 20 ปี
ข้อ 6 ลำดับเวลาเกิดเหตุ และข้อมูลพยานบุคคลมีความคลาดเคลื่อนบางประเด็น
ข้อ 7 กล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุของชาวบ้านมีข้อจำกัด ส่วนกล้องที่เห็นชัดอยู่ในระยะไกล แต่ก็ทำให้ระบุห้วงเวลาของเหตุการณ์ได้
ข้อ 8 สถิติคดีเด็กเล็กหายของมูลนิธิกระจกเงา พบว่ามีทั้งคนใกล้ชิด คนรู้จักเด็กลักพาไป ความรุนแรงในครอบครัวหรือการสร้าง สถานการณ์ต้องมีเหตุจูงใจ
ข้อ 9 คดีนี้ เป็นกรณีที่กระชับรัศมีผู้ก่อเหตุได้ในวงจำกัด การวิเคราะห์หรือสอบสวนเชิงลึก ต้องระวังการกระทบสิทธิ์เด็ก ครอบครัวและคนในชุมชน
ข้อ 10 ประวัติพฤติกรรม ส่วนตัวทั้งผิดกฎหมาย ผิดจารีตประเพณี ไม่ใช่สิ่งตัดสินว่าบุคคลนั้นจะทำผิดลักพาตัวเด็ก
ข้อ 11 ประวัติบุคคลในทางสืบสวน ไม่ควรถูกเผยแพร่ โดยเฉพาะหน่วยงานบังคับ ใช้กฎหมาย
ข้อ 12 ข้อมูลที่เสนอผ่านสื่อออนไลน์ เป็นเพียงข้อมูลประกอบข้อคิดเห็น ไม่เกี่ยวกับการทำผิดครั้งนี้
และ ข้อ13 มูลนิธิกระจกเงา ลงพื้นที่ตั้งแต่เกิดเหตุยืนยันว่า ตำรวจสืบสวนสอบสวนตามแนวทางที่ควรดำเนินการ แต่ปัจจุบัน ยังไม่สามารถหาหลักฐานผู้กระทำผิดได้