'บิ๊กโจ๊ก' จ่อขอหมายจับเพิ่ม หลังพบจนท.รัฐ-จนท.สถานทูต เอี่ยวค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู

มีความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจค้นบ้านพักของอดีตกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย ก่อนจะยักยอกทรัพย์และเรียกรับสินบนเพิ่มเป็นเงินกว่า 9 ล้าน 5 แสนบาท จนถูกออกหมายจับรวม 16 คน ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่ามีหลักฐานพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าหน้าที่สกานกงสุลนาอูรู เกี่ยวข้องด้วย ขณะนี้อยู่ ระหว่าง รวบรวม หลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับเพิ่ม


พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้า กรณีตำรวจ 191 และดีเอสไอ นำกำลังเข้าค้นบ้านพักและคอนโดมีเนียม อดีตกงสุลนาอูรู ประจำประเทศไทย โดยมีการยักยอกเงินของกลางและเรียกสินบนเพิ่ม รวมเงิน 9 ล้าน 5 แสนบาทนั้น จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญ นายเสกสิทธิ์ สวรรยาธิปัติ หรือ ผอ.ท็อป มาให้ข้อมูลแล้ว และพบว่าคดีนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้อยู่อีก ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าหน้าที่กงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ให้ละเอียดเพื่อขออนุมัติหมายจับเพิ่ม



วันนี้(31 ม.ค. 66 ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่าเขาพาพยานไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลใน 2 เรื่อง คือเรื่องเกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ โดยมิชอบในการร่วมกับตำรวจ 191 ไปตรวจค้นบ้านพักของอดีตกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย โดยนายอัจฉริยะอ้างว่า พยานคนนี้ เห็นขั้นตอนที่ผิดปกติ ตั้งแต่ที่กงสุลนาอูรู ร้องเรียนความผิดปกติในบ้านหลังนี้ จากนั้นก็มีการนัดแนะกันของเจ้าที่เพื่อไปเคสซิ่ง หรือสังเกตการณ์ รวมถึงติดกล้องวงจรปิดหน้าบ้านหลังนี้ ซึ่งปฎิบัติการทั้งหมดมีขึ้น ก่อนที่จะมีหนังสือขออนุญาตออกไปทำงานด้วยซ้ำ



นายอัจฉริยะ ระบุว่ามีอีกคดีที่เขานำพยานไปพบพนักงานสอบสวน คือข้อกล่าวหาการทุจริตสอบเลื่อนตำแหน่งข้าราชการระดับซี 8 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยนายอัจฉริยะ อ้างว่าพยานคนดังกล่าว เกี่ยวข้องในการรับเงินจากการขายข้อสอบล่วงหน้าให้ผู้เข้าสอบ แล้วนำเงินนี้ไปให้ผู้เกี่ยวข้อง กระทั่งต่อมามีการร้องเรียนเรื่อง ข้อสอบรั่วไหลก่อนวันสอบ 2 วัน ซึ่งนายอัจฉริยะระบุว่าต้องการให้กระทรวงยุติธรรม ตั้งปลัดกระทรวง เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องที่ถวายฎีการ้องทุกข์ รวม 25 เรื่องด้วย