ผบช.น. ฉุน! เร่งหาตัวมือปล่อยข้อมูลสำนวนคดี 'ผับจินหลิง' มั่นใจเกลือเป็นหนอน

หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้แถลงจุดบกพร่องในสำนวนคดีจิงหลิง และนายตู้ห่าว พร้อมออกมาโต้แย้ง สำนวนของตำรวจกับอัยการก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการนำภาพจากกล้องวงจรปิด มาแสดงเป็นหลักฐานของคดีค่อนข้างละเอียด ปรากฎว่า มีรายงานมา ว่า ทาง ผบช.น.สั่งสอบหาว่า ใครเป็นผู้ส่งข้อมูลสำนวนคดีผับจินหลิงให้ ชูวิทย์ แถลง โดยขู่จะเอาผิดฐานทำให้เสียหายต่อรูปคดี



หลังจากมีรายงานข่าวดังกล่าวออกมา วันนี้ผู้สื่อข่าวก็พยายามติดต่อไปทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถึงคำสั่งดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้



โดยมีเบื้องต้น ระบุว่า ทาง ผบช.น.ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำข้อมูลในสำนวนคดีผับจินหลิง เกี่ยวกับเส้นทางการเงินและภาพจากกล้องวงจรปิดในผับไปแถลงข่าวกับสื่อมวลชนต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าข้อมูลส่วนหนึ่งเป็นพยานหลักฐานในสำนวนคดีที่หลุดรั่วออกไป จึงเชื่อว่า มีคนในส่งข้อมูลให้กับนายชูวิทย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งคัดลอกข้อมูลไปให้ เพราะเมื่อเปรียบเทียบแล้วตรงกับแผ่นชาร์จ ที่นายชูวิทย์แถลงข่าว



โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ทราบแล้วว่า นายตำรวจคนดังกล่าวมีตำแหน่งเป็น รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน สน.แห่งหนึ่ง ขณะนี้สั่งสอบเพื่อเอาผิดฐานเป็นส่วนหนึ่งทำให้รูปคดีเสียหาย



ขณะที่นายชูวิทย์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุหัวข้อว่า เกลือเป็นหนอน ผบช.น.ฉุนตั้งกรรมการตรวจสอบพ.ต.ท.ลอบส่งข้อมูลให้ เรื่องที่ ผบช.น. ควรสอบกลับ ไม่สอบ ไม่ตรวจพื้นที่ให้ครบถ้วนในคราวเดียวกัน ไม่เก็บหลักฐานให้ครบ เอาพยานกลับเป็นผู้ต้องหา ปล่อยผู้ต้องสงสัยรายสำคัญไปด้วยฝีมือลูกน้องตัวเอง ให้คนจีนเอาเงินมาจ่ายถึงกลาง สน. แล้วแอบไปแจ้งข้อหาในวันหยุด และอีกมากมาย



ก่อนหน้านี้ นายชูวิทย์ ได้นำแผนผัง ของจินหลัง มาเปิดเผยเพื่อเเสดงให้เห็นว่า ในพื้นที่ที่ตรวจจับ ไม่ได้มีแค่จินหลิง เพราะถูกแบ่งเป็น 3 โซน หลัก คือ บ่อน ที่มีเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด 2 จุด รวมกล้อง 68 ตัว ผับจินหลิง มีเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด 1 จุด กล้อง 20 ตัว และวิบวับคาร์วอช เป็นโกดังที่นายชูวิทย์ระบุว่าเป็นที่เก็บยาเสพติด มีเซิร์ฟเวอร์ 1 จุด กล้องวงจรปิด 20 ตัว รวมทั้งหมด 108 ตัว และย้ำว่า พนักงานสอบสวนส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพียง 1 เซิร์ฟเวอร์ คือ ที่จินหลิง และตรวจสอบไฟล์ได้เพียงวันที่ 21-26 ตุลาคมเท่านั้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้ ผบช.น.เชื่อว่า ต้องมีคนที่เข้าถึงสำนวนคดีเท่านั้นจึงจะรู้รายละเอียดทั้งหมด